สีผมเทาหม่น

การทำ สีผมเทาหม่น และเรื่องที่ควรรู้ ทำอย่างไรให้สีออกมาสวยถูกใจ?

ต้องยอมรับว่า สีผมเทาหม่น นั้นเป็นสีที่ได้รับความนิยมตลอดกาลจริง ๆ เพราะเป็นโทนสีที่มีเสน่ห์และช่วยสร้างความมั่นใจให้กับสาว ๆ ได้ เป็นโทนสีที่เหมาะกับสาวทุกโทนผิว หลายคนมักคิดว่าสีเทาหม่นเป็นโทนสีที่ทำยาก แต่ความจริงแล้วก็ถือว่าไม่ยากอย่างที่คิด หากทำอย่างถูกวิธีก็จะช่วยให้สีออกมาสวยถูกใจและไม่ทำให้ผมเสียด้วย วันนี้เราจึงจะชวนเพื่อน ๆ ไปทำผมสีเทาหม่นพร้อมเคล็ดลับดี ๆ ในการทำสีผมและเรื่องที่ควรรู้มาฝากกัน

ทำสีผมเทาหม่นต้องกัดสีผมหรือไม่? ควรเตรียมตัวก่อนทำสีอย่างไร?

· งดใช้อุปกรณ์ทำผมที่มีความร้อน 1 อาทิตย์ก่อนทำ ก่อนทำ ผมสีเทาหม่น ควรงดใช้ความร้อนกับผมทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นไดร์เป่าผม เครื่องหนีบผม เครื่องม้วนผม หรืออื่น ๆ เพราะความร้อนจะทำให้เส้นผมอ่อนแอและมีโอกาสขาดร่วงได้ง่าย

· ไม่ควรสระผมก่อนทำสีผม 1 วัน เพราะจะทำให้ผมลื่นและสีผมติดยาก การปล่อยผมไว้ตามธรรมชาติ ผมที่มีความมันจะช่วยให้สีติดได้ดีกว่า

· ควรกัดสีผมก่อนทำสีเทาหม่น การทำผมสีเทาหม่นนั้น สีผมควรอยู่ในระดับสีบลอนด์อ่อน หรือสว่างกว่าสีบลอนด์อ่อน หากสีผมเข้มกว่าสีบลอนด์อ่อนควรฟอกสีผม เพื่อให้สีเทาหม่นติดได้ดี ให้สีที่เด่นชัด และมีความสวยงาม โดยในการผสมยาฟอกสีผม แนะนำให้ใช้ผงฟอกผสมกับไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ปริมาณ 6% เพราะหากปริมาณต่ำไปจะทำให้สีติดไม่ดี

· ควรเว้นช่วงการทำสีผมอย่างน้อย 1 เดือน เพราะสีย้อมผมในครั้งก่อนยังคงทิ้งเม็ดสีเอาไว้ หากทำสีผมซ้ำจะทำให้เม็ดสีไปผสมกันและทำให้สีเพี้ยนได้

· ควรเว้นช่วงจากการดัดหรือยืดก่อนทำสีอย่างน้อย 1 เดือน เพราะผมที่ผ่านการดัดหรือการยืดมาจะมีความอ่อนแอจากการใช้สารเคมี หากมาทำสีผมเพิ่มอีกจะทำให้ผมอ่อนแอมากขึ้น ขาดหลุดร่วงง่ายขึ้น

เรื่องที่ควรรู้ในการทำ ผมสีเทาหม่น 

· สภาพผมของแต่ละคนอาจมีผลลัพธ์ที่ไม่เหมือนกัน แม้ว่าจะทำสีผมเทาหม่นเหมือนกัน ใช้เวลาเท่ากันแต่ก็ใช่ว่าผลลัพธ์ที่ออกมาของแต่ละคนนั้นจะเหมือนกัน โดยผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับสภาพผมของแต่ละบุคคล

· ผมที่ยังไม่เคยผ่านการทำสีจะติดง่ายกว่า เพราะเป็นเส้นผมที่มีความบริสุทธิ์ จึงมีโอกาสติดสีได้ดีกว่า 

· ระยะเวลาในการทิ้งสีผมไว้ของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนทำสีแล้วทิ้งไว้เพียงประมาณ 30 นาทีก็ให้สีที่ชัดแล้ว แต่บางคนทิ้งไว้ 40 – 50 นาทีถึงออกสีที่ชัด 

· ไม่ควรทิ้งสีย้อมผมไว้บนผมนานเกิน 1 ชั่วโมง เพราะการทิ้งสีย้อมผมไว้นานเกินไปจะเป็นการทำร้ายผมแบบไม่รู้ตัว

· ควรลงสีย้อมผมในขณะที่ผมหมาด เพราะยาย้อมผมจะติดได้ดีในช่วงที่ผมหมาด ไม่ควรลงสีขณะที่ผมแห้ง

· ควรเลือกใช้ สีผมเทาหม่น ที่มีคุณภาพ ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน

· สีผมจะติดได้ดีประมาณ 1 เดือน หลังจากนั้นจะเริ่มจางลงไปตามเวลา

การดูแลสภาพผมหลังทำ สีผมเทาหม่น มีวิธีการดูแลอย่างไร?

· งดสระผมหลังทำสีผมเทาอย่างน้อย 2 วัน เพื่อให้สีผมติดทนนาน หากรีบสระผมจะทำให้สีผมหลุดออกไปด้วย

· งดใช้อุปกรณ์ที่มีความร้อนกับผมอย่างน้อย 5 – 7 วัน เพราะผมหลังทำสียังอยู่ในช่วงที่อ่อนแอ จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนกับเส้นผมออกไปก่อนเพื่อฟื้นบำรุงสภาพผม

· ไม่ควรสระผมด้วยน้ำอุ่น เพราะน้ำอุ่นจะทำให้ผมแห้งและชี้ฟูง่าย

· หลีกเลี่ยงการเผชิญแสงแดด เพราะความร้อนจากแสงแดดมีรังสียูวีที่สามารถทำร้ายผมได้เช่นกัน

· บำรุงผมด้วยครีมนวดผมหลังสระทุกครั้ง เพื่อผมที่นุ่มลื่น เงางาม

สำหรับสาว ๆ คนไหนที่จะทำ ผมสีเทาหม่น ก็อย่าลืมตรวจสอบสภาพผมของตัวเองกันก่อนว่าเป็นแบบไหน ต้องฟอกสีผมก่อนหรือไม่ และหลังทำสีแล้วก็อย่าลืมดูแลสุขภาพผมกันด้วย

สีผมเทาหม่น

นัมจู

โลชั่น นัมจู ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง ทำไมถึงเป็นโลชั่นที่ใครต่างก็พูดถึง?

หากใครที่ได้เล่นโซเชียลมีเดียในช่วงนี้เชื่อว่าคงจะได้เห็นโลชั่น นัมจู (Numju) ผ่านตากันอยู่บ่อย ๆ เป็นผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ดังของไทยอย่าง Ratcha Life ที่ได้มีผลิตภัณฑ์ดี ๆ มากมาย โดยเน้นไปที่เรื่องของความปลอดภัยเป็นหลัก เป็นโลชั่นวิตามินเข้มข้นที่ใช้สารสกัดนำเข้าจากประเทศเกาหลี มีความเข้มข้นกว่าโลชั่นแบบทั่วไปมากถึง 3 เท่า อีกทั้งยังมีเหล่าดาราและบิวตี้บล็อกเกอร์ออกมาพูดถึงมากมาย หากอยากรู้แล้วว่าโลชั่นชนิดนี้จะเป็นอย่างไร เราไปทำความรู้จักกันเลย

โลชั่นวิตามินเข้มข้น นัมจู หัวเชื้อวิตามินเกาหลีเพื่อผิวสวย ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง?

· ช่วยปรับสภาพผิวให้ขาวกระจ่างใส โลชั่น นัมจู มีส่วนผสมของ Hibiscus ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าและช่วยปรับสภาพผิวให้กระจ่างใสยิ่งขึ้น 

· ช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ผิว Organic Shea Butter มีคุณสมบัติช่วยฟื้นฟูสภาพผิวที่ถูกทำร้ายให้กลับมามีสภาพผิวที่ดียิ่งขึ้น เหมาะสำหรับคนที่สีผิวไม่สม่ำเสมอ หรือผิวถูกทำร้ายจากแสงแดด โดยจะช่วยซ่อมบำรุงเซลล์ผิวเก่าและผลัดเซลล์ผิวใหม่เพื่อฟื้นบำรุงผิว

· ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น Numju มีส่วนผสมของ Jasmine, Organic Shea Butter, Caprylyl2 Glyceryl Ascorbate และ Aloe Vera ที่มีคุณสมบัติช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน ดูสุขภาพดี เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแห้ง ผิวขาดน้ำ เพราะผิวแห้งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่าย

· ช่วยลบเลือนจุดด่างดำ Daisy มีคุณสมบัติช่วยให้ผิวดูสว่างใสขึ้นแบบเป็นธรรมชาติ ช่วยให้จุดด่างดำดูจางลง และมีวิตามิน B3 ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดการเกิดรอยดำ รอยแดง และช่วยปรับสภาพผิวให้ดูกระจ่างใสขึ้น 

· ช่วยป้องกันผิวจากรังสี UV ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดที่เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดริ้วรอย จุดด่างดำ ฝ้า และกระ ที่หากปล่อยไว้นานก็จะเป็นรอยฝังลึกและยากจะรักษา

· ช่วยระงับกลิ่นกาย มาพร้อมกับกลิ่นที่หอมติดทนนาน 12 ชั่วโมง ช่วยให้ผิวหอมได้ตลอดวัน พร้อมช่วยลดการเกิดกลิ่นกายอย่างกลิ่นตัวหรือกลิ่นรักแร้ เหมาะสำหรับคนที่มีกลิ่นตัวหรือคนที่เหงื่อออกเยอะ

· ช่วยแก้ปัญหารักแร้ดำ เข่าดำ ศอกดำ ข้อพับดำ มีสารสกัดจากเข้มข้นจากเกาหลีและมีวิตามินหลายชนิดที่มีคุณสมบัติช่วยลดรอยดำด้าน โดยรอยดำต่าง ๆ นั้นเกิดจากการถูกเสียดสีบ่อย ๆ เช่น เข่าดำ จากการนั่งคุกเข่าบ่อย ๆ ที่ปล่อยไว้จะทำให้ขาดความมั่นใจได้

· ช่วยให้รอยแตกลายค่อย ๆ จางลง ช่วยปรับความสมดุลผิวและช่วยทำให้รอยแตกลายดูจางลง

โลชั่น Numju มีขนาดไหนให้เลือกบ้าง? 

· แบบซอง เป็นโลชั่น นัมจู ขนาดพกพา บรรจุในซองขนาด 25 กรัม ราคา 99 บาท เหมาะสำหรับการเดินทาง เป็นขนาดเล็กที่พกพาสะดวก หยิบใช้ง่าย

· แบบกระปุก เป็นขนาดที่นิยม เพราะใช้ได้นาน บรรจุในกระปุกปริมาณ 100 กรัม ราคา 349 บาท เปิดใช้งานง่าย กระปุกออกแบบมาเป็นสีชมพูน่ารัก สามารถซื้อติดบ้านไว้ใช้ได้

ครีมนัมจู ใช้อย่างไร ทาได้บ่อยแค่ไหน?

Numju เป็นโลชั่นวิตามินเกาหลีเข้มข้นที่ทาง่ายเหมือนโลชั่นบำรุงผิวแบบทั่วไป ใช้สำหรับทาผิวกาย แนะนำให้ทาหลังอาบน้ำใหม่ ๆ ตอนที่ตัวยังหมาด ๆ เพื่อช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้ผิวได้นานขึ้น ทาเป็นประจำทุกวัน เช้า – เย็น เนื้อครีมบางเบา ซึบซาบเข้าสู่ผิวได้เร็ว ไม่ทำให้เหนียวเหนอะหนะ สามารถใช้ร่วมกับผลิตบำรุงผิวอื่น ๆ ได้ เช่น ครีมบำรุงผิวหรือผลิตภันฑ์ป้องกันแสงแดด เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลผิว

จุดเด่นของ ครีมนัมจู คือ ทาง่าย ไม่ติดขน เนื่องจากเป็นโลชั่นเข้มข้นหลายคนจึงคิดว่าจะมีเนื้อครีมที่ข้น ทายาก และติดขนหรือเปล่า? แต่ความจริงแล้วมีเนื้อที่บางเบาและทาง่ายกว่าที่ติด ไม่ต้องกลัวว่าเนื้อครีมจะติดขน เพราะซึมซาบได้เร็ว 

สำหรับใครที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ ผิวแห้งกร้านไม่ชุ่มชื้น รอยดำ รอยด้าน และกลิ่นตัว ครีมนัมจู ก็เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ช่วยแก้ปัญหาผิวเหล่านี้ได้ ช่วยให้มีสภาพผิวที่ขาวกระจ่างใสมากขึ้น ช่วยลดปัญหากลิ่นตัว และช่วยให้มีความมั่นใจขึ้นได้

นัมจู

กระโปรงพลีท

เคล็ดลับการดูแล กระโปรงพลีท ให้จีบสวย ไม่แตก และการแมทช์ชุดให้สวยปัง!

เมื่อพูดถึง กระโปรงพลีท หลายคนมักจะนึกถึงกระโปรงนักศึกษา เพราะเป็นกระโปรงที่เราใส่กันตอนเรียนมหาวิทยาลัย แต่ความจริงแล้ว Pleated Skirt นั้นคือชื่อทรงกระโปรงที่มีลักษณะเป็นจีบรอบกระโปรง โดยจะมีขนาดจีบที่ต่างกัน เพื่อสไตล์ที่ต่างกัน จีบจะทิ้งตัวสวย ไม่ได้เป็นทรงที่ดูบานจนเกินไป แต่หากโดนลมพัดจีบจะบานขึ้นมาทันที สาว ๆ ที่ใส่กระโปรงพลีทจึงควรระมัดระวังเป็นพิเศษ เป็นกระโปรงแฟชั่นที่กำลังกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง ทำให้ในช่วงนี้สาว ๆ หลายคนหันมาใส่กระโปรงพลีทกันมากขึ้น

ประเภทของ กระโปรงพลีท มีแบบไหนบ้าง?

· แบบจีบเล็ก กระโปรงพลีทจีบเล็ก จีบจะมีความกว้างประมาณ 1.5 เซนติเมตร เป็นกระโปรงจีบรอบที่มีความสวยงาม จะให้ลุคที่สุภาพเรียบร้อย กระโปรงจีบเล็กจะนิยมใส่แบบยาวหรือประมาณหัวเข่า จะไม่นิยมใส่แบบสั้นมาก เพราะว่ากระโปรงจีบเล็กเมื่อโดนลมแล้วจะบานได้มากกว่าแบบอื่น ที่จะทำให้สาว ๆ โป๊ได้

· แบบจีบใหญ่ หรือที่หลายคนเรียกว่า จีบกลาง จะมีขนาดใหญ่ขึ้นมาสักหน่อย ความกว้างของจีบอยู่ที่ประมาณ 1.5 นิ้ว เป็นแบบจีบรอบเช่นกัน นิยมใส่แบบเหนือหัวเข่า เป็นความยาวที่กำลังพอดี ข้อดีคือ รีดง่าย เพราะจีบไม่เล็กจนเกินไป

· แบบจีบทวิส เป็นจีบที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน โดยจีบจะมีลักษณะที่คล้ายกับแบบจีบใหญ่ แต่จะมีความกว้างกว่า อยู่ที่ประมาณ 2 นิ้ว เป็นจีบแฟชั่นที่มีความสวยงาม นิยมใส่ความยาวประมาณ 16 – 20 เซนติเมตร จุดเด่นของกระโปรงจีบทวิสคือ มีการดีไซน์ช่วงสะโพกให้เรียบกระชับเพื่อเก็บทรงและปล่อยบานในช่วงใต้สะโพกลงมา เมื่อใส่แล้วจึงทำให้สาว ๆ ดูมีสะโพก สวยงาม และไม่ต้องกลัวว่าลมพัดแล้วจีบจะตีกลับขึ้น เป็นจีบที่นิยมใช้กับกระโปรงแฟชั่นทั่วไป

เคล็ดลับการดูแล กระโปรงพลีท และการรีดให้จีบสวย

· ควรสะบัดก่อนตาก การสะบัด กระโปรงพลีท ก่อนตากจะช่วยลดการยับของผ้าได้

· เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ปรับผ้านุ่มสูตรป้องกันผ้ายับ เพราะเป็นเทคโนโลยีช่วยลดผ้ายับและการคืนทรงให้กับเนื้อผ้า ที่จะช่วยให้คืนทรงสวยและช่วยประหยัดเวลาในการรีดได้

· ใช้น้ำยาอัดกลีบผ้าช่วย ควรใช้น้ำยาอัดกลีบผ้าในการรีดผ้าเพื่อช่วยให้ผ้าอยู่ทรงและไม่คลายตัวง่าย ช่วยให้ผ้ามีทรงสวยได้นาน ไม่ยับง่าย และไม่ต้องคอยรีดบ่อย

· รีดด้วยไฟอ่อน เพื่อความสวยงามของทรงกระโปรง ควรจับจีบรีดทีละจีบ และรีดไร่จากชายกระโปรงขึ้นไปด้านบนด้วยไฟอ่อน จะช่วยให้จีบเป็นทรงสวยและรีดง่ายกว่าการรีดจากบนลงล่าง

· รีดจากด้านใน เพื่อช่วยป้องกันจีบเป็นรอยรีด ช่วยถนอมสีผ้าได้ดี และช่วยให้เห็นจีบชัด

· ไม่แช่เตารีดไว้นานจนเกินไป เพราะเนื้อผ้าบางชนิดไวต่อความร้อน หากแช่นานเกินไปจะทำให้จีบขึ้นเงา เป็นรอยรีด ทำให้ดูไม่สวย

แมทช์ กระโปรงจีบพลีท อย่างไรให้สวยปัง ไม่เยอะ แต่สะดุดตา!

· กระโปรงพลีทยาว + เสื้อแขนยาวเข้ารูป + รองเท้าผ้าใบ ให้ลุคสาวมั่นที่ดูภูมิฐาน คือการนำกระโปรงพลีทยาวโทนสีสว่าง เช่น สีเหลือง แมทช์คู่กับเสื้อแขนยาวคอเต่าสีดำเข้ารูป และแมทช์กับรองเท้าผ้าใบสีขาว

· กระโปรงพลีทยาว + เสื้อยืดแขนสั้น + รองเท้าบูท เป็นลุคที่ดูง่าย ๆ แต่แอบเท่ เลือกเป็นกระโปรงพลีทยาวสีส้มอิฐ แมทช์กับเสื้อยืดแขนสั้นไม่รัดรูปทับในช่วงหน้าท้อง เพิ่มความเท่ด้วยเข็มขัดหนังสีดำ และรองเท้าบูทสีดำ

· กระโปรงจีบทวิส + เสื้อสเวตเตอร์ + รองเท้าผ้าใบ เป็นลุคสาวหวาน เรียบง่ายแต่ดูน่ารัก เลือกกระโปรงจีบทวิสโทนสีเข้ม เช่นสี น้ำเงิน กรม แมทช์กับเสื้อสเวตเตอร์ สีขาวหรือสีครีม และรองเท้าผ้าใบ

· กระโปรงจีบทวิส + เสื้อยืด + แจ็คเก็ต + รองเท้าบูท ให้ลุคสาวเท่ที่แอบเปรี้ยว เลือกกระโปรงจีบทวิสสีดำ เสื้อยืดสีขาวแจ็คเก็ตหนังดำ แมทช์กับรองเท้าบูทสีดำ เท่านี้ก็ดูมีสเน่ห์ขึ้นแล้ว

และนี่คือลุคง่าย ๆ ที่จะช่วยให้สาว ๆ แมทช์ชุดกับ กระโปรงจีบพลีท ได้ง่ายขึ้น หากชอบสไตล์ไหนก็สามารถแต่งตามกันได้ และอย่าลืมดูแลกระโปรงพลีทอย่างถูกวิธีเพื่อให้มีทรงสวยและแมทช์ใช้งานได้นาน ๆ 

กระโปรงพลีท

ทรงผมผู้หญิง

ส่องเทรนด์ ทรงผมผู้หญิง มาแรงในปี 2023 ทรงไหนปัง และเข้ากับคุณ?

ทรงผมผู้หญิง เป็นเทรนด์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในทุก ๆ ปีตามกระแสหรือเทรนด์ในช่วงนั้น ๆ โดยเทรนด์ทรงผมที่ได้รับความนิยมในแต่ละปีก็จะมีการวนกลับมาฮิตใหม่อีกครั้ง ไม่ได้มีกฎตายตัวว่าทรงไหนที่เคยฮิตแล้วจะกลับมาฮิตอีกไม่ได้ เพื่อให้สาว ๆ ตามเทรนด์ทรงผมได้ทัน วันนี้เราจึงได้รวมเอาทรงผมผู้หญิงที่จะกลับมาฮิตอีกครั้งในปีนี้มาฝากกัน ส่วนจะมีทรงอะไรบ้าง ไปติดตามกันเลย

ทรงผมสำหรับผู้หญิง มาแรงในปี 2023 เช็กก่อนตัด ทรงไหนดี?

· ทรง Pixie Cut ยกให้ ทรงผมสำหรับผู้หญิง ทรงนี้เป็นทรงที่มาแรงที่สุดในปี 2023 เพราะเป็นทรงผมสั้นที่ดาราเซเลบทั้งไทยและต่างประเทศนิยมตัดกัน เป็นทรงซอยสั้น ความยาวจะอยู่ประมาณต้นคอ ส่วนด้านหน้าจะตัดสไลด์ไล่ลงมาถึงหูเพื่อให้เห็นใบหน้าชัดขึ้น เป็นทรงเปิดหูที่ช่วยให้สาว ๆ ดูมีเสน่ห์มากขึ้น ให้ลุคออกแนวลุย ๆ เท่ ๆ ส่วนด้านหลังจะซอยให้ทุย ๆ ทำให้ออกมาดูสวย

· ทรง Wolf Cut เป็นทรงที่เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ผมยาวประบ่า เป็นการตัดแบบไล่เลเยอร์เพื่อให้ผมดูมีวอลุ่มมากขึ้น ด้านหน้าจะตัดซอยไล่ระดับลงไปถึงช่วงคางให้ผมดูมีวอลุ่มเข้ารับกับใบหน้า เป็นทรงที่เซ็ตง่าย เพียงแค่สระไดร์ก็เป็นทรงสวยแล้ว เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ไม่มีเวลาทำผม

· ทรง Mullet Hair เป็นทรงที่ให้ลุคเซอร์ ๆ ดูเป็นธรรมชาติ มีลักษณะคล้ายกับผมทรงลากไทร ผมด้านหน้าจะซอยไล่ระดับลงมาเป็นเลเยอร์ถึงช่วยต้นคอและปล่อยช่วยปลายยาว เป็นทรงที่เหมาะสำหรับสาวเท่ ทรงสวย ไม่ต้องเซ็ตผม

· Curtain Bangs เป็นหน้าม้าที่ตัดไล่ระดับลงมาถึงคางเพื่อให้รับเข้าใบหน้า ทำให้สาว ๆ ที่ตัดทรงนี้ดูน่ารักขึ้น เป็นสาวหวานมากขึ้น นิยมตัดในสาวผมยาว แต่สาวผมสั้นก็สามารถตัดได้เช่นกัน

· ทรง Sleek หรือที่หลายคนเรียกว่าทรงเกาหลี เป็น ทรงผมที่เหมาะกับสาวผมยาว เป็นการสไลด์ผมไล่ลงมาถึงปลายผม เป็นทรงที่ดูเหมือนจะธรรมดาแต่ก็มีเสน่ห์และเซ็กซี่นิด ๆ 

· ทรง See-through bangs เป็นทรงที่ฮิตข้ามปีมา แม้ว่าจะเริ่มปีใหม่แล้วแต่ก็ยังฮิตอยู่ เป็นหน้าม้าแบบซีทรูที่ดูน่ารักแต่ก็แฝงไปด้วยความเซ็กซี่ จุดเด่นของทรงนี้คือ หน้าม้าที่บาง ๆ ปล่อยตรงหรือปัดข้างก็ได้ และด้วยความที่เป็นหน้าม้าบางนี้เองที่ทำให้ดูเซ็กซี่และมีสเน่ห์ขึ้น

· ทรง Long Bob เป็นทรงที่ฮิตตลอดกาล ไม่ว่าจะตัดตอนไหนก็รอด เป็นทรงผมประบ่า ที่ช่วงปลายจะไม่บาง แต่จะเป็นวอลุ่มงุ้มเข้า เป็นทรงที่ดูเรียบ ๆ แต่ก็มีเสน่ห์

ทรงผมผู้หญิง กับเรื่องที่ควรรู้ก่อนไปตัดผม

· เลือกทรงผมที่เข้ากับรูปหน้าของตัวเอง ก่อนตัดผม ควรทราบก่อนว่าโครงหน้าของเราเหมาะกับทรงผมแบบไหน เช่น สาวที่มีโครงหน้ากลม ควรหลีกเลี่ยงทรงผมที่เรียบตรง ไม่มีเลเยอร์ เพราะจะทำให้เห็นโครงหน้าชัดขึ้น ควรเลือกทรงที่มีเลเยอร์และช่วยปกปิดใบหน้าได้ เช่น ทรง Mullet Hair

· ควรเลือกร้านที่มั่นใจได้ ควรศึกษาข้อมูลร้านให้ดีก่อนว่าร้านนั้นมีความถนัดเกี่ยวกับด้านใด มีช่างทำผมที่เชี่ยวชาญเรื่องการตัดผมหรือไม่ รีวิวเป็นอย่างไร เพื่อช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

· ควรถามช่างก่อนว่าสามารถตัดได้หรือไม่ สำหรับทรงผมที่มีรายละเอียดเยอะ ๆ ควรให้ช่างได้ดูรูปทรงผมในหลาย ๆ มุมเพื่อประเมินว่าสามารถตัดได้หรือไม่ เพราะช่างบางคนก็ไม่สามารถตัดได้

· ไม่หนีบผมก่อนไปตัดผม เพราะจะทำให้ผมยาวเรียบตรงไม่เป็นธรรมชาติ หากตัดออกมาแล้วจะทำให้ผมสั้นลงและไม่เป็นทรงเหมือนตอนตัดใหม่ ๆ 

· ไม่ควรสระผมก่อนตัดผม เพราะจะทำให้ทรงผมที่ตัดออกมาไม่เหมือนทรงผมจริงตอนหลังสระใหม่ ๆ 

สำหรับสาว ๆ คนไหนที่กำลังจะตัดผม สามารถนำ ทรงผม ที่เราแนะนำไปลองตัดกันได้ ตัดได้ทั้งผมสั้นและผมยาว เป็นเทรนด์ที่มาแรงในปี 2023 ตัดตอนไหนก็รอด!

ทรงผมผู้หญิง

รองเท้า Keen

รองเท้า Keen ของแท้ดูยังไง? มีอะไรดี ทำไมถึงกลายเป็นรองเท้าที่นิยมอย่างรวดเร็ว?

รองเท้า Keen เพราะเป็นรองเท้าดีไซน์แปลกตาที่ไม่ได้มีดีแค่ความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่เป็นรองเท้าที่เกิดขึ้นมาจากแนวคิดการผลิตรองเท้าของ Martin Keen และ Rory Fuerst ที่ต้องการผลิตรองเท้าที่ช่วยปกป้องนิ้วเท้าจากสิ่งต่าง ๆ ได้ จึงได้ก่อตั้งแบรนด์ขึ้นในปี 2003 เพื่อผลิตรองเท้าเดินป่าหรือรองเท้าทางน้ำที่เหมาะกับทุกกิจกรรมขึ้น และด้วยแนวคิดนี้เองที่ทำให้คีนเป็นรองเท้าที่มีดีไซน์ไม่เหมือนใครและปกป้องนิ้วเท้าได้ดีกว่ารองเท้าทั่วไปในท้องตลาด

รองเท้า Keen มีแบบไหนบ้าง แต่ละแบบเหมาะกับการใช้งานแบบไหน?

· รองเท้าแตะ มีให้เลือก 2 แบบคือ แบบสวมและแบบหูหนีบ รองเท้าประเภทนี้มีจุดเด่นคือ การสวมใส่ที่สบายเท้า มีน้ำหนักเบา พื้นรองเท้าผลิตมาเป็นยางร่องลึก พื้นหนา ทำให้ใส่สบายเท้า ช่วยรองรับแรงกระแทกได้ดี ช่วยลดอาการปวดเมื่อยเท้าได้ กันน้ำได้ ใส่ลุยน้ำได้ เหมาะสำหรับใส่ลำลอง

· รองเท้ารัดส้น เป็นรองเท้าที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบันนี้ เพราะมีดีไซน์สวยงาม ออกแบบมาให้สวมใส่ง่าย ใส่ได้ทุกกิจกรรมและเหมาะกับทุกสภาพอากาศ จุดเด่นคือ เชือกรองเท้าถักที่ผลิตจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์และหุ้มอีกชั้นด้วยไนลอนเพื่อช่วยเพิ่มความแข็งแรง ทำให้ไม่ขาดง่าย ส่วนสายรัดส้นผลิตมาจากไมโครไฟเบอร์ ที่มีคุณสมบัติช่วยลดการกัดเท้า ทำให้ใส่แล้วไม่เจ็บเท้าและหมดปัญหาเรื่องรองเท้ากัด นอกจากนี้พื้นรองเท้ายังออกแบบมาให้รองรับได้ทุกกิจกรรม โดยเฉพาะกิจกรรมแอดเวนเจอร์ต่าง ๆ ด้วยเทคโนโลยี Razor Siping ที่ทำให้พื้นยางมีประสิทธิภาพในการยึดเกาะได้ดี สามารถเดินวิ่งได้ทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็นหิน ดิน ทราย เดินป่า ปีนเขา ลุยน้ำ หรืออื่น ๆ

· รองเท้าผ้าใบ แม้ว่าจะพบเห็นได้ไม่บ่อยแต่รองเท้าผ้าใบ Keen ก็เป็นรองเท้าที่ได้รับความนิยมในกลุ่มของนักเดินทาง เดินป่า เดินเขาไม่น้อยเลย เพราะออกแบบมาให้ช่วยซัพพอร์ตเท้าและนิ้วเท้าได้เป็นอย่างดี หน้าเท้าออกแบบมาให้มีความแข็งแรง ช่วยปกป้องเท้าจากแรงกระแทกได้ พื้นรองเท้ามีลายกันลื่นเพื่อช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากการลื่นล้ม พื้นรองเท้ามีความยืดหยุ่น รองรับแรงกระแทกได้ดี ช่วยให้สวมใส่สบาย ไม่ปวดเท้า จุดเด่นคือ สามารถกันน้ำได้ ใส่ลุยน้ำได้ หรือใครที่ชอบเดินป่าเดินเขาก็ใส่ได้แบบสบาย ๆ ไม่ต้องกลัวว่าน้ำจะเข้าไปขังในเท้า

จะรู้ได้อย่างไรว่า Keen แบบไหนที่เป็นของแท้ มีวิธีการสังเกตอย่างไร?

· ดูจากป้าย Tag รองเท้าทุกคู่ที่ซื้อจาก Shop จะมีกล่องและป้าย Tag มาให้อยู่แล้ว หากไม่มีป้าย Tag อาจหมายถึงผ่านการใช้งานมาแล้วหรือเป็นของปลอม โดยของแท้ป้าย Tag จะเป็นไมโครไฟเบอร์ทั้งแผ่น จะไม่มีป้าย Tag แยกมาหลาย ๆ อันให้สิ้นเปลือง เพราะคีนเป็นแบรนด์ที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ส่วนกระดาษห่อรองเท้าด้านในจะเป็นสีน้ำตาลอ่อนพิมพ์ลาย Keen 

· เช็กจาก Serial number ที่กล่องจะมี Serial number มาให้ โดยรองเท้าแต่ละคู่จะมี Serial number ที่ไม่เหมือนกัน สามารถนำเลขไปตรวจสอบบนเว็บไซต์ได้

· ป้ายบอกไซส์ที่รองเท้ามีรายละเอียดชัดเจน เก็บรายละเอียดเรียบร้อย ป้ายบอกไซส์จะมีการคัตติ้งที่เป็นระเบียบเรียบร้อยมาก จะไม่มีรอยต่อหรือเส้นด้ายหลุดลุ่ยออกมาให้เห็น ตัวป้ายยังมีตัวหนังสือที่ชัดเจน อ่านง่าย 

· โลโก้ไม่กลับด้าน อีกหนึ่งจุดที่ไม่ควรมองข้ามเลยคือ โลโก้ ที่ควรตรวจสอบดูให้ดี เพราะของแท้โลโก้จะต้องมีตัวหนังสือที่ชัดเจนและไม่กลับด้าน

· สายรองเท้าแข็งแรง อยู่ทรง ไม่ยืดย้วย Keen เป็นรองเท้าที่ผลิตมาจากวัสดุที่มีคุณภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นพื้นรองเท้า หนังรองเท้า เชือกหรือสายรองเท้า ที่จะมีความแข็งแรงทนทานสูง สายรัดส้นถอดง่าย เชือกรองเท้าหรือสายรองเท้าเป็นทรงสวย ไม่ยืดย้วยหรือเสียทรงง่าย พื้นรองเท้านุ่มไม่แข็งกระด้าง 

· ตัวหนังสือบนรองเท้ามีความคมชัด ไม่ซีดจาง สำหรับรุ่นที่มีการปั๊มตัวหนังสือลงไปบนรองเท้า ตัวหนังสือหรือโลโก้ที่ปั๊มลงไปจะมีความคมชัด แยกตัวหนังสืออย่างชัดเจน เว้นช่องไฟเท่า ๆ กัน 

ด้วยคุณสมบัติพิเศษต่าง ๆ นี้เองที่ทำให้ Keen ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว หากใครกำลังมองหารองเท้าสำหรับกิจกรรมแอดเวนเจอร์ต่าง ๆ อยู่ก็ถือว่าเป็นคำตอบที่ดี เพราะทั้งสวย ทนทาน และใส่ได้หลายโอกาส

รองเท้า Keen

เสื้อผ้าแบรนด์ไทย

แนะนำ เสื้อผ้าแบรนด์ไทย หลากสไตล์เอาใจสาว ๆ สุดชิค

การสวมใส่ เสื้อผ้าแบรนด์ไทย เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับคนไทย เพราะส่วนมากเสื้อผ้าจะถูกออกแบบและตัดเย็บโดยฝีมือของคนไทย ทำให้เหมาะกับเรามากที่สุด อีกทั้งหลายแบรนด์ก็ใช้พนักงานในประเทศเป็นคนผลิตทุกขั้นตอน ทำให้การอุดหนุนธุรกิจนี้ก็เหมือนเป็นการสนับสนุนทั้งแบรนด์และแรงงานของบ้านเราอีกด้วย

หลายคนอาจจะคิดว่าเสื้อผ้าจากแบรนด์ไทยต้องเป็นเสื้อผ้าที่ราคาแพง ดูเชย และคงจับคู่กับเครื่องประดับยาก แต่แท้ที่จริงแล้วในปัจจุบันมีเสื้อผ้าหลายสไตล์ที่ถูกออกแบบโดยคนไทยออกมาวางขาย ทั้งมีเอกลักษณ์ ราคาเป็นมิตร และได้รับสินค้าอย่างรวดเร็ว

ปักหมุด 3 สไตล์ยอดฮิตของเสื้อผ้าแบรนด์ไทย

· สไตล์สาวเปรี้ยวแบบ Y2K

แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสไตล์ Y2K เหมือนพาเราย้อนยุคกลับไปในปี 2000’s ซึ่งเสื้อผ้าแนวนี้ก็กำลังกลับมาเป็นที่นิยมอย่างแรงสุด ๆ การแต่งตัวสไตล์ Y2K นั้นจะสะท้อนความมั่นใจของผู้สวมใส่ออกมาอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นเสื้อเอวลอย กางเกงเอวต่ำ กระโปรงสั้น หรือชุดเดรสรัดรูป เป็นต้น 

ใครหลายคนอาจจะคิดว่าหากต้องการตามกระแส Y2K ให้ทัน เราคงต้องพรีออเดอร์สินค้าจากต่างประเทศมาใส่เท่านั้น ซึ่งกว่าสินค้าจะส่งมาถึงก็อาจจะตกเทรนด์ไปแล้ว แต่แบรนด์ Fallen Angels เป็นแบรนด์ที่ผลิตเสื้อผ้าสไตล์ Y2K เป็นแบรนด์แรกของไทย แม้จะแต่งตัวไม่เก่งก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะทางแบรนด์นั้นช่วยจับคู่เสื้อผ้าไว้ ทำให้เราสามารถเลือกซื้อได้ง่ายขึ้น

· สไตล์สาวหวานแอบเซ็กซี่แบบลูกไม้

พอกล่าวถึงเสื้อลูกไม้หรือชุดลูกไม้อาจจะทำให้ใครหลายคนถึงกับเบือนหน้าหนี บ้างก็ว่าลูกไม้ถ้าหากอยู่บนเสื้อผ้าแล้วจะทำให้คนใส่ดูแก่และเชย แต่ที่จริงแล้วการออกแบบและการตัดเย็บเสื้อผ้าที่ดีจะส่งผลให้เสื้อผ้าลูกไม้นั้นดูหรูหราและสวยงามขึ้นอย่างน่าเหลือเชื่อ เหมือนเสื้อผ้าแบรนด์ไทยที่ชื่อว่า Rotsaniyom ออกแบบและจำหน่าย ซึ่งแบรนด์นี้เป็นแบรนด์ที่คงเอกลักษณ์ความเป็นไทยแบบร่วมสมัยลงไปบนเสื้อผ้า ทำให้เสื้อผ้าลูกไม้ดูอินเตอร์และใส่ง่ายจนต้องจับจองไว้สักตัว

· สไตล์สาวเรียบร้อยคุมโทนแบบ Minimal

เสื้อผ้าสไตล์มินิมอลยังคงเป็นเสื้อผ้าที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน เพราะความเรียบง่าย โทนสี และสามารถสวมใส่ได้ในหลาย ๆ โอกาส อีกทั้งยังสามารถนำมาแมทช์ให้เข้ากันได้ง่ายที่สุดด้วย จึงทำให้เป็นเสื้อผ้าที่ยังคงขายดีในประเทศไทย ซึ่งเสื้อผ้าจากแบรนด์ไทยที่ใครได้เห็นก็ต้องใจฟูคือ แบรนด์ HOFSTORE ที่มีเสื้อผ้าสไตล์มินิมอลให้เลือกมากกว่า 100 แบบ

ทริคแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าแบรนด์ไทยแบบตัวแม่

· เลือกสไตล์การแต่งตัวที่ชอบ : แฟชั่นนอกจากจะไม่จำกัดอายุกับรูปร่างแล้ว แฟชั่นยังไม่จำกัดเพศอีกด้วย ดังนั้นให้เลือกแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าแบรนด์ไทยตามสไตล์ที่เราชอบมากที่สุด เพราะความมั่นใจในตัวเองจะช่วยส่งเสริมให้ทั้งบุคลิกและภาพลักษณ์ของเราออกมาดูดี 

· เสริมจุดเด่นและพรางจุดด้อย : หากใครที่ไม่มั่นใจในตัวเองก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่การแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่เหมาะกับเราจะช่วยให้เรามั่นใจมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถเพิ่มจุดเด่นและกลบจุดด้อยของเราได้ด้วย ยกตัวอย่างเช่น หากเราไม่มั่นใจที่เรามีหน้าท้องส่วนล่างยื่นออกมาก็ลองเลือกกระโปรงทรงเทนนิสสั้นเพื่อโชว์เรียวขาแทน ไม่ก็ใส่เสื้อที่ยาวคลุมสะโพกเพื่อเป็นการพรางสายตา เป็นต้น

· เพิ่มความปังด้วยเครื่องประดับ

เสื้อผ้าบางตัวอาจจะเรียบจนทำให้เราดูธรรมดาจนเกินไป การเพิ่มเครื่องประดับเข้าไปนั้นจะเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้เราดูสวยงามแบบครบเครื่องมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น หากเราใส่เสื้อกล้ามคอกว้างสีขาวคู่กับกระโปรงสีเขียวอ่อนที่ยาวคลุมเข่า แบบนั้นก็จะดูธรรมดาไม่ได้มีอะไรพิเศษ แต่ถ้าหากหยิบสร้อยสีเงินที่มีจี้พลอยสีแดงมาใส่สักเส้นก็จะทำให้ลุคนี้ดูมีอะไรน่าค้นหามากยิ่งขึ้น

เป็นอย่างไรบ้างกับเสื้อผ้าแบรนด์ไทยที่นำมาฝากกัน จะเห็นได้ว่าคนไทยก็เก่งไม่แพ้ชาติใดในโลกเช่นกัน หากใครไม่มั่นใจในตัวเองก็ลองนำทริคการแต่งตัวไปปรับใช้ให้เข้ากับตัวเองได้ แต่อย่างไรก็ตามการที่เราไม่สมบูรณ์แบบนั้นเป็นเรื่องปกติ เพราะในโลกใบนี้ไม่มีใครสมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว ดังนั้นเลิกกังวลแล้วแต่งตัวตามที่เราชอบดีกว่า

กระเป๋า Gucci

5 เหตุผลที่บอกว่าทำไม กระเป๋า Gucci ถึงเป็นกระเป๋าที่น่าลงทุน!

หลายคนอาจเลือกซื้อกระเป๋าเพราะความสวยงาม แต่สำหรับ กระเป๋า Gucci แล้วแค่ความอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ เพราะเป็นกระเป๋าแบรนด์เนมที่มีความสวยงามและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงทำให้หลายคนไม่ได้ซื้อมาเพื่อใช้เพียงอย่างเดียวแต่ยังเก็บสะสมและซื้อเก็บไว้เก็งกำไรด้วย วันนี้เราจึงจะมาบอกกันว่าทำไมกระเป๋าของ Gucci ถึงเป็นกระเป๋าที่ใครต่างก็อยากลงทุน

รวม กระเป๋า Gucci คอลเลกชันยอดฮิตที่น่าลงทุน

· GG Marmont เป็นคอลเลกชัน กระเป๋ากุชชี่ ที่เปิดตัวขึ้นมาในปี 2016 จุดเด่นของกระเป๋าคอลเลกชันนี้คือ โลโก้สีทองหม่น GG ที่ดูโดดเด่นสะดุดตา โดยได้แรงบันดาลใจมากจากโลโก้บนหัวเข็มขัด เมื่อนำมาประดับบนวัสดุหนัง Matelassé ที่มีจุดเด่นในรูปแบบลายนูนจึงทำให้เป็นกระเป๋าที่ออกมาสวยงามและคลาสสิกในตัว จึงทำให้คอลเลกชันนี้ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน

· Gucci Diana เป็นกระเป๋ากุชชี่ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย เพราะแค่ชื่อก็คงจะบอกอยู่แล้วว่ามีที่มาจากอะไร Gucci Diana เปิดตัวครั้งแรกในปี 1991 เป็นกระเป๋าโท้ทด้ามไม้ไผ่ที่มีประวัติยาวนานรุ่นหนึ่งเลยก็ว่าได้ และยังเป็นกระเป๋าที่สื่อแฟชั่นทั่วโลกต่างให้ความสนใจ เพราะเป็นกระเป๋าที่เจ้าหญิงไดอาน่า เจ้าหญิงแห่งเวลส์จากประเทศอังกฤษได้ถือออกสื่ออยู่บ่อย ๆ ในปี 2021 ที่ผ่านมาทาง Gucci จึงได้นำกระเป๋ารุ่นนี้กลับมาดีไซน์ใหม่ให้มีความทันสมัยมากกว่าเดิม โดยได้เพิ่มสายหนังแบบถอดได้เข้ามาให้ถือใช้อย่างสะดวก และยังเป็นการเฉลิมฉลองให้กับเจ้าหญิงไดอาน่าที่มีอายุครบ 60 ปีด้วย

· Gucci Horsebit เปิดตัวขึ้นในปี 1955 โดยได้แรงบันดาลใจมาจากกีฬาขี่ม้า จึงได้นำสัญลักษณ์ของวงแหวนและบาร์คู่มาไว้ด้วยกันเพื่อความคลาสสิก จุดเด่นของ Gucci Horsebit มีการนำวัสดุที่หลากหลายมาใช้ เช่น ผ้าเดนิม ผ้าแคนวาส หนังวัว

· Jackie เป็นกระเป๋ากุชชี่ อีกหนึ่งรุ่นที่ควรค่าแก่การลงทุน เพราะเป็นกระเป๋าทรงพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวที่ทำให้ Gucci ถูกพูดถึงอย่างมากกับดีไซน์ที่แปลกตาหลังจากที่ได้เปิดตัวในปี 1961 และด้วยความฮอตของ Jackie ทาง Gucci จึงได้นำกลับมาผลิตอีกครั้งให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น แต่ยังคงไม่ทิ้งเอกลักษณ์เดิมของพระจันทร์ครึ่งเสี้ยววงนี้เอาไว้ ทำให้แฟนคลับของคอกเลกชันนี้ต่างพากันจับจองเป็นเจ้าของ

· Dionysus กระเป๋าคอลเลกชันดังที่ได้แรงบันดาลใจมาจากไดโอนิซัส (Dionysus) เทพแห่งเมรัยและไวน์องุ่น จุดเด่นของกระเป๋าคอลเลกชันนี้คือการใช้ผ้าใบแคนวาสลายโมโนแกรม GG แล้วคาดด้วย Gucci Vintage Web สายคาดสีเขียว – แดงที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเส้นรอบวงของอานม้า และโลโก้ GG ทรงเกือกม้าลายหัวเสือคู่ ที่ทำให้สะดุดตา

5 เหตุผลที่ทำให้หลายคนเลือกลงทุนกับ กระเป๋ากุชชี่

1. มีความคลาสสิก จุดเด่นของกระเป๋ากุชชี่เลยก็คือ เป็นกระเป๋าสไตล์วินเทจที่มีความคลาสสิกตลอดกาล เป็นกระเป๋าจากรุ่นแม่สู่ลูกที่แม้จะนำถือใหม่ก็ยังคงไม่ตกเทรนด์ 

2. มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่เห็นได้ชัดคือโลโก้สีทองที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร แค่เพียงเห็นไกล ๆ ก็รู้แล้วว่าเป็นกระเป๋าของ Gucci 

3. เลือกใช้วัสดุที่ความแข็งแรงทนทานสูง วัสดุที่ทาง  Gucci เลือกใช้ส่วนใหญ่จะเป็นผ้าและหนัง จึงทำให้มีความแข็งแรงและมีอายุการใช้งานที่นาน ไม่เสื่อมสภาพง่าย ดูมีความแข็งแรง ทนทาน ไม่ขาด หลุด ลอกง่าย 

4. มีการตัดเย็บอย่างประณีต Gucci เป็นแบรนด์ที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพในการผลิตมาก กระเป๋าที่ผลิตออกมาทุกใบจึงมีความสวยงาม ประณีต งานละเอียดเนี๊ยบทุกจุด จึงไม่ต้องกังวลเลยว่าจะมีด้ายหรือวัสดุอะไรหลุดออกมาให้กวนใจ

5. ได้รับความนิยมในทุกยุคทุกสมัย แม้จะเป็นกระเป๋าที่มีความคลาสสิกสูงแต่ก็ได้รับความนิยมในทุกยุคสมัย เช่น กระเป๋าคอลเลกชัน Gucci Diana ที่ผลิตออกมาครั้งแรกตั้งแต่ปี 1991 และได้นำกลับมาดีไซน์ใหม่ในปี 2021 แต่ก็ยังได้รับความนิยมอยู่แม้ว่าจะผ่านมา 30 ปีแล้วก็ตาม

สำหรับใครที่ชื่นชอบกระเป๋ากุชชี่อยากหาซื้อมาใช้หรืออยากซื้อไว้ลงทุนก็สามารถเลือกรุ่นที่เหมาะกับการลงทุนกันได้ เป็นกระเป๋าแบรนด์เนมที่ไม่ว่าจะตอนไหนหรือเมื่อไหร่ก็ยังคงได้รับความนิยมอยู่เสมอจริง ๆ 

กระเป๋า Gucci

ชุดไปงานแต่งกางเกง

เคล็ดลับในการเลือก ชุดไปงานแต่งกางเกง หรือชุดเดรสสำหรับสาว ๆ แบบไหนที่สวยได้ ไม่หลุดธีม!

การเลือก ชุดไปงานแต่ง สำหรับสาว ๆ นั้นถือเป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะไม่ได้เลือกจากความสวยงามเพียงอย่างเดียว แต่ยังควรเลือกชุดที่เข้ากับงานและมีความเหมาะสมตามกาลเทศะด้วย ซึ่งในปัจจุบันชุดสำหรับใส่ไปงานแต่งก็มีความหลากหลายมากขึ้นทั้ง ชุดไปงานแต่งกางเกง กระโปรง ไม่จำเป็นต้องเป็นกระโปรงเพียงอย่างเดียว แต่ยังเลือกแมทช์ได้อีกหลายสไตล์ สำหรับสาว ๆ คนไหนที่ยังไม่มีไอเดียในการเลือกชุด เราก็มีไอเดียดี ๆ มาฝากกัน

ประเภทของชุดไปงานแต่งแต่ละแบบเหมาะสำหรับการจัดงานแบบไหน?

· ชุดเดรส เป็น ชุดไปงานแต่ง ที่นิยมที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะเดรสเป็นชุดที่สวมใส่ง่าย เพียงชิ้นเดียวก็สามารถเอาอยู่แล้ว อีกทั้งการออกแบบในสมัยนี้ยังมีความทันสมัยและมีความหลากหลายมากขึ้น มีการนำลูกเล่นต่าง ๆ มาใช้เพื่อให้ชุดดูสวยงาม ดูหรู และดูแพงขึ้นได้ มีให้เลือกทั้งแบบเดรสสั้นและเดรสยาว เดรสเข้ารูปและเดรสไม่เข้ารูป โดยที่นิยมคือ เดรสผ่าข้างหรือเดรสผ่าหน้า เพราะช่วยเพิ่มเสน่ห์ในการสวมใส่ได้ เหมาะสำหรับทั้งงานเช้าและงานเย็น

· ชุดสูทขายาว เรียกว่าเป็นชุดไปงานแต่งกางเกงที่กำลังมาแรงในตอนนี้ เป็นชุดในสไตล์สาวเท่แต่ก็ยังคงไว้ในสไตล์ที่สุภาพ เป็นการแมทช์รวมกันระหว่างเสื้อสูทและกางเกงขายาวในสูทโทนสีเดียวกัน และตัดสีด้วยช่วงหน้าอกเพื่อให้ดูโดดเด่นมากขึ้นด้วยเสื้อเกาะอกหรือเสื้อสายเดี่ยวสีขาวหรือสีดำ เพื่อโชว์สัดส่วนโดยไม่ต้องติดกระดุมเสื้อ แต่หากเป็นงานที่เป็นทางการหน่อยก็สามารถติด 1 – 2 เม็ดได้ เหมาะสำหรับทั้งงานเช้าและงานเย็น

· เสื้อเบลเซอร์ + กระโปรงทรง A เสื้อเบลเซอร์จะมีลักษณะที่คล้ายกับเสื้อสูทแต่จะมีทรงที่เข้ากับสรีระของสาว ๆ ได้ดีกว่า ดูทันสมัย และไม่เป็นทางการจนเกินไป นิยมสวมเกาะอก สายเดี่ยว หรือเสื้อกล้ามแบบรัดรูปไว้ด้านใน กับกระโปรงทรงเอ และคลุมทับด้วยเสื้อเบลเซอร์ ให้ลุคที่ดูสุภาพแต่มีความทันสมัย เหมาะสำหรับงานเช้า

· เสื้อเบลาส์ + กางเกงขายาว เสื้อเบลาส์เป็นเสื้อที่มีความสุภาพอยู่ในตัวอยู่แล้วเพียงนำมาแมทช์กับกางเกงขายาวเก๋ ๆ สักตัวก็ทำให้ดูมีเสน่ห์ขึ้นได้แล้ว ให้ลุคที่ดูสภาพและมีความทะมัดทะแมง

· จั้มสูทขายาว เป็นสุดสำหรับสาวมั่นที่มีความเป็นลูกคุณหนู เป็นชุดที่ดูเรียบง่ายแต่ดูแพงและแฝงไปด้วยความหรูหรา เหมาะสำหรับทั้งงานเช้า

ข้อควรระวังในการเลือกชุดไปงานแต่งเลือกแบบไหนให้เจ้าภาพถูกใจ

· เลือกสีชุดตามธีมงาน โดยปกติแล้วงานแต่งจะมีการกำหนดธีมสีมาให้ เพื่อให้ได้เลือกชุดไปงานแต่งกางเกงและชุดเดรสที่มีสีตรงกับธีมที่กำหนด และงานออกมาดูสวยงาม จึงควรสอบถามทางเจ้าบ่าว เจ้าสาว หรือเจ้าภาพก่อนว่ามีธีมสีอะไร เพื่อเลือกชุดไปร่วมงานได้แบบไม่หลุดธีม อีกทั้งการใส่ชุดตามธีมสียังเป็นการให้เกียรติคู่บ่าวสาวด้วย

· เลือกชุดที่เหมาะกับช่วงเวลาของการจัดงาน งานเช้าเหมาะสำหรับชุดที่ดูไม่เป็นทางการจนเกินไป เช่น ชุดเดรส หรือเสื้อเบลเซอร์กับกระโปรง ควรเป็นชุดที่เคลื่อนไหวได้คล่องตัว เนื่องจากงานเช้าจะมีพิธีการค่อนข้างเยอะ ส่วนงานเยอะ เหมาะสำหรับชุดที่ดูสุภาพ สวยงาม หรูหรา เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศของการเฉลิมฉลอง

· เลือกชุดที่เหมาะกับสถานที่ หากเป็นงานที่จัดนอกอาคารหรืองานแบบ Open Air เหมาะสำหรับชุดที่สวมใส่สบายและระบายอากาศได้ดี ควรหลีกเลี่ยงชุดที่สีผ้าหนาหรือเป็นแบบยาว

· เลือกชุดที่ไม่ดูอลังการเกินเจ้าสาว ข้อนี้ถือว่าสำคัญมาก ชุดที่เลือกควรอยู่ในระดับที่เป็นทางการ ไม่ดูหรูหราหรืออลังการจนเกินไป เพราะจะทำให้ดูเกินหน้าเจ้าสาวได้ และควรหลีกเลี่ยงชุดที่เป็นโทนสีขาวล้วน

· ไม่เลือกชุดที่สั้นหรือโป๊จนเกินไป เพราะจะทำให้ดูเกินงามได้ เนื่องจากในงานมีแขกผู้ใหญ่อยู่มาก

และนี่คือไอเดียดี ๆ ในการเลือกชุดไปงานแต่งกางเกงและแบบอื่น ๆ หากสาว ๆ คนไหนมีแพลนไปงานแต่งก็อย่าลืมเลือกชุดให้กับแต่ละโอกาสและเข้ากับธีมงานด้วย เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้คุณดูสวยสะดุดตาและสามารถร่วมงานได้อย่างมีความมั่นใจแล้ว

ชุดไปงานแต่งกางเกง

Anessa

จะรู้ได้อย่างไรว่าผลิตภัณฑ์กันแดดของ Anessa สูตรไหนที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง?

Anessa เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์กันแดดจากประเทศญี่ปุ่นที่มียอดขายอันดับ 1 มานานถึง 21 ปีซ้อน เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์กันแดดชั้นนำที่มีจุดกำเนิดขึ้นในปี 1992 โดย Shiseido Group ที่ไม่เคยหยุดพัฒนาผลิตภัณฑ์และได้คิดค้นผลิตภัณฑ์กันแดดที่เหมาะกับสภาพผิวของแต่ละคนเพื่อปกป้องผิวจากแสงแดด โดยจุดเด่นคือ มีคุณสมบัติ Aqua Booster EX ที่ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันผิวจากเหงื่อและน้ำ ทำหน้าที่เคลือบผิวเอาไว้เพื่อช่วยให้กันแดดคงประสิทธิภาพอยู่บนผิวได้นานที่สุดและทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สำหรับใครที่กำลังมองหากันแดดของอเนสซ่าอยู่ แต่ไม่รู้ว่าควรเลือกใช้สูตรไหนดี เราไปดูกัน

Anessa มีสูตรไหนให้เลือกบ้าง แต่ละสูตรเหมาะสำหรับคนผิวแบบไหน?

· สูตรอ่อนโยน เป็นผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด สำหรับคนผิวบอบบางแพ้ง่าย เด็กสามารถใช้ได้ ปราศจากแอลกอฮอล์ การแต่งสี และน้ำหอม เป็นกันแดดเนื้อน้ำนม บางเบา เกลี่ยง่าย ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้เร็ว ไม่ทิ้งคราบ เป็นกันแดดที่ติดทนนานเพราะมีเทคโนโลยี Aqua Booster EX เป็นเกราะป้องกันผิว สามารถทาก่อนเล่นน้ำได้ ช่วยปกป้องผิวได้ดีทั้งบนบกและในน้ำ

· สูตรสำหรับคนผิวมัน เป็นกันแดดเนื้อเจลที่ช่วยในเรื่องการควบคุมความมันโดยเฉพาะ เพราะคนที่มีผิวมันจะเหมาะสำหรับกันแดดที่มีเนื้อเจลหรือแบบน้ำ เพราะจะซึมเข้าสู่ผิวได้เร็ว และช่วยลดความมันส่วนเกินระหว่างวันได้

· สูตรกันน้ำ กันเหงื่อ เป็นกันแดดแบบเนื้อน้ำนมที่มีเนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย ซึมเข้าสู่ผิวได้เร็ว เช่น สูตร Essence Sunscreen Milk ที่ช่วยเคลือบผิวและกันน้ำกันเหงื่อได้ เหมาะสำหรับคนที่ชอบกิจกรรมกลางแจ้งหรือทำกิจกรรมทางน้ำ

· สูตร Brightening เป็นกันแดดเนื้อเจลที่ช่วยบำรุงผิวและช่วยปรับผิวให้กระจ่างใสขึ้น เช่น สูตร Brightening UV Gel ที่มีส่วนผสมของคอลาเจน ไฮยาลูรอน (Hyaluronic Acid) และสารสกัดจากชาเขียนที่ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น

· สูตรเย็น เป็นสเปรย์กันแดดเนื้อโฟม ที่เพียงเริ่มใช้ความเย็นก็จะทำงานในทันที เป็นกันแดดที่เหมาะสำหรับคนที่ออกแดดบ่อย ช่วยให้รู้สึกสดชื่นขึ้นได้ ฟองครีมนุ่ม เกลี่ยง่าย ซึมเข้าสู่ผิวได้เร็ว อีกทั้งกันแดดสูตรนี้ยังมีเทคโนโลยี Aqua Booster EX ที่ช่วยบล็อกผิวและยังกันน้ำกันเหงื่อได้อีกด้วย

เคล็ดลับในการเลือกซื้อ อเนสซ่า ให้เหมาะกับสภาพผิวของตัวเอง?

· เลือกสูตรที่เหมาะกับสภาพผิว เช่น เป็นคนผิวมัน ควรเลือกกันแดด Anessa สูตรที่ช่วยควบคุมความมันและป้องกันความมันส่วนเกินไป เพราะแต่ละสูตรจะมีคุณสมบัติที่ไม่เหมือนกัน

· เลือกจากค่า SPF สำหรับใครออกแดดบ่อยควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF50+ PA++++ เพราะช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA/UVB ได้ เนื่องจากเป็นรังสียูวีที่ก่อให้ฝ้า กระ และจุดด่างดำได้ แต่สำหรับใครที่ออกแดดไม่บ่อย ควรเลือกกันแดดที่มีค่า SPF30 ขึ้นไปเพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันรังสียูวีและแสงสีฟ้าจากหน้าจอต่าง ๆ เช่น SPF35 PA+++ 

· เลือกสูตรที่มีเทคโนโลยี Aqua Booster EX เพราะเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากแสงแดดแม้ว่าผิวจะเปียกน้ำก็ตาม เพราะโดยปกติแล้วหากผิวเปียกน้ำกันแดดจะระเหยออกไปด้วย ทำให้มีประสิทธิภาพในการปกป้องผิวลดลง แต่เทคโนโลยี Aqua Booster EX สามารถเป็นเกราะป้องกันผิวโดยบล็อคผิวไว้ไม่ให้เนื้อกันแดดหลุดออกแม้จะลงเล่นน้ำ และเมื่อขึ้นจากน้ำแล้วก็ยังคงมีประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดต่อได้อีกนานถึง 80 นาทีเลยทีเดียว

· เลือกสูตรที่กันน้ำกันเหงื่อได้ สำหรับคนที่เหงื่อออกง่าย ออกกำลังกาย เล่นกีฬา หรือทำกิจกรรมกลางแจ้งควรเลือกสูตรที่มีคุณสมบัติกันน้ำกันเหงื่อได้ เพื่อช่วยให้ปกป้องผิวจากแสงแดดได้นานขึ้น ไม่ต้องคอยเติมระหว่างวัน

· เลือกจากคุณสมบัติเพิ่มเติม เช่น มีมอยเจอไรเซอร์ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น, ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย, เป็น BB Cream ใช้เป็นไพรเมอร์ก่อนแต่งหน้าได้, สามารถทาได้ทั้งใบหน้าและลำตัว

สำหรับใครที่สนใจสามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดด สูตรที่เหมาะกับสภาพผิวของตัวเองมาใช้กันได้ เป็นกันแดดที่ไม่ได้ทำหน้าที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดเพียงอย่างเดียวแต่ยังช่วยบำรุงผิวให้มีสุขภาพดีขึ้นด้วย

Anessa

เครื่องหนีบผม Super V

ทำไม เครื่องหนีบผม Super V ถึงเป็นเครื่องหนีบผมที่ช่างทำผมส่วนใหญ่เลือกใช้?

หากใครที่เข้าร้านทำผมบ่อย ๆ เชื่อว่าจะต้องเห็น เครื่องหนีบผม Super V ผ่านตากันมาบ้างแล้ว เพราะเป็นเครื่องหนีบผมที่ช่างทำผมส่วนใหญ่เลือกใช้ เพราะ ซุปเปอร์วี มีคุณสมบัติที่น่าใช้งานหลายอย่าง เป็นเครื่องหนีบผมที่ใช้แผ่นความร้อนเคลือบเซรามิก ทำให้ผมรีดเรียบ ตรงสวย และกระจายความร้อนได้อย่างสม่ำเสมอ ทำให้เวลาใช้งานแล้วไม่เจ็บศีรษะ ไม่กินผม ทำความร้อนได้เร็วในเวลาเพียง 30 วินาทีเท่านั้นเอง

เครื่องหนีบผม Super V แบบมีฟันและแบบไม่มีฟันต่างกันอย่างไร?

· แบบมีฟัน คือที่หนีบผม Super V ที่มีฟันอยู่ด้านข้างของเครื่องหนีบทั้ง 2 ข้าง มีลักษณะเป็นฟันซี่เล็ก ๆ เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ผมพันกันขณะใช้งาน ช่วยให้ผมเรียงตรงสวย รีดง่ายไม่ต้องคอยหวีผมตลอดเวลา เป็นฟังก์ชันที่มีมากับที่หนีบผม Super V เกือบทุกรุ่น

· แบบไม่มีฟัน คือรุ่นที่ขอบด้านข้างทั้ง 2 ข้างของตัวเครื่องออกแบบมาผิวเรียบเสมอกัน จะมีเพียงแผ่นทำความร้อนเท่านั้น ข้อดีคือ กะทัดรัด มีความสวยงาม ใช้ง่าย แต่มีโอกาสที่ผมจะพันกันได้ 

ที่หนีบผม ซุปเปอร์วี แต่ละขนาดเหมาะสำหรับผมแบบไหน?

· สำหรับคนผมสั้น เป็นเครื่องหนีบผม Super V  ที่มีขนาดเล็ก มีหน้ากว้าง 3 x 10 เซนติเมตร ออกแบบมาให้เหมาะสำหรับคนผมสั้นโดยเฉพาะ ช่วยให้รีดง่าย รีดผมได้อย่างทั่วถึงตั้งแต่โคนจรดปลาย ไม่เกะกะ เหมาะสำหรับคนที่ผมสั้นไม่เกินท้ายทอย

· สำหรับคนผมสั้น – ผมยาว สำหรับใครที่มีผมไม่ยาวมาก หรือผมยาวประบ่า เหมาะสำหรับรุ่นที่มีหน้ากว้าง 3.5 x 10 เซนติเมตร เพราะจะมีแถบหนีบผมที่ใหญ่ขึ้น ช่วยให้หนีบผมได้เร็วขึ้น

· สำหรับคนผมยาว เหมาะสำหรับรุ่นที่มีหน้ากว้าง 4 x 10 เซนติเมตร เพราะจะช่วยให้เก็บผมได้ดีกว่า หนีบง่าย ใช้เวลาเพียงไม่นานก็เสร็จแล้ว หากเลือกรุ่นที่มีหน้าแคบจะทำให้เก็บผมได้ปริมาณต่อครั้งน้อยกว่า และต้องใช้เวลาหนีบผมที่เพิ่มขึ้น

· สำหรับคนผมยาว – ผมหนามาก เหมาะสำหรับรุ่นที่มีหน้ากว้างมากเป็นพิเศษ ขนาด 6 x 10 เซนติเมตร ที่ออกแบบมาสำหรับคนผมหนาโดยเฉพาะ เพื่อช่วยให้เก็บผมได้มากขึ้นและหนีบเร็วขึ้น

การใช้ ที่หนีบผม Super V อย่างถูกวิธี ใช้อย่างไรไม่ให้ผมเสีย?

· ไม่หนีบผมตอนผมเปียก สิ่งสำคัญในการใช้เครื่องหนีบผม Super V เลยก็คือ ไม่ควรหนีบผมตอนที่ผมยังไม่แห้งดีหรือยังเปียกอยู่ เพราะเมื่อเส้นผมที่ยังไม่แห้งเจอกับความร้อนจากตัวเครื่องจะทำให้เกิดการไหม้ ทำให้ผมเสียได้

· ใส่ผลิตภัณฑ์ป้องกันความร้อนก่อนหนีบผม เพื่อช่วยป้องกันผมจากความร้อน เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะมีสารเคลือบเส้นผมอยู่ จึงช่วยป้องกันผมไม่ให้เสียจากความร้อนได้

· หวีผมก่อนหนีบ เพื่อให้ผมเรียงตัวสวยและหนีบได้ง่ายขึ้น หากไม่หวีผมก่อนจะทำให้ผมพันกัน เมื่อหนีบผมโดยใช้ความร้อนลงไปจะทำให้เส้นผมที่พันกันโดนความร้อนและเสียง่าย

· แบ่งช่อผมก่อนหนีบ ควรแบ่งผมเป็นช่อเล็ก ๆ เพื่อช่วยให้หนีบได้ง่ายขึ้น ไม่ควรหนีบผมช่อใหญ่เกินไปเพราะจะทำให้ความร้อนไม่ทั่วถึงและผมไม่ตรงสวยเสมอกัน

· เลือกอุณหภูมิให้เหมาะกับสภาพผม สำหรับผมบอบบาง ผมแตกปลาย ผมทำสี หรือผมทำเคมี ควรเลือกใช้อุณหภูมิ 160 องศาเซียลเซียส ไม่ควรเลือกใช้ไฟแรงเกินไปเพราะจะทำให้ผมเสียได้ง่าย ส่วนคนผมธรรมดาเหมาะสำหรับอุณหภูมิ 180 องศาเซียลเซียส

· ไม่หนีบติดโคนผมจนเกินไป ควรหนีบให้ห่างโคนผมอย่างน้อย 1 – 2 นิ้ว เพราะหากหนีบใกล้เกินไปจะทำให้โคนผมเจอความร้อนสูง ทำให้หนังศีรษะและเส้นผมไม่แข็งแรง ขาดง่าย

· ไม่ควรหนีบแช่ไว้นานเกินไป ควรหนีบไล่ลงจากบนลงล่างอย่างช้า ๆ ไม่ควรหนีบแช่ไว้นานเกิน 3 วินาที เพราะจะทำให้ผมไหม้ขาดได้

สำหรับใครที่อยากผมตรงสลวยเหมือนที่ร้านทำผมหนีบให้ ก็สามารถหาซื้อที่หนีบผม Super V รุ่นที่เหมาะกับสภาพผมของตัวเองมาใช้กันได้ สามารถหนีบเองได้ง่าย ๆ ที่บ้าน เลือกปรับอุณหภูมิได้หลายระดับ ใช้งานง่าย ผมสวยได้ในไม่กี่นาที

เครื่องหนีบผม Super V