รองเท้าบาจา ความทนแบบสุดเก๋า ที่ขยับเพิ่มความโมเดิร์นเอาใจคนรุ่นใหม่
เรียกว่ากลายเป็นหนึ่งแบรนด์รองเท้าที่เป็นตำนานอีกหนึ่งแบรนด์สำหรับ “รองเท้าบาจา” กับเวลา 90 กว่าปีที่อยู่คู่ตลาดรองเท้าของคนไทยมาโดยตลอด ซึ่งพัฒนาการของบาจาก็มีการเปลี่ยนแปลงมาอยู่เรื่อย ๆ ตั้งแต่ การวางตลาดเพื่อตอบโจทย์รองเท้าสำหรับนักเรียนและก็เปลี่ยนมาตอบสนองไลฟ์สไตล์ผู้คนด้วยรองเท้าหลากหลายแบบ และทุกคนต่างรู้ว่าบาจามีความเจ๋งที่ความทนทาน
ต้องบอกเลยว่ารองเท้าภายใต้แบรนด์โลโก้อักษรภาษาอังกฤษที่เขียนว่า bata นี้สร้างความผูกพันในตลาดรองเท้าประเทศไทยและผูกพันอยู่กับคนไทยมายาวนานนับชั่วอายุคน นั่นทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์นี้กลายเป็นความ “ทนทานสุดเก๋า” ในสายตาคนรุ่นใหม่ ซึ่งวันนี้บาจาขอปรับลุคเปลี่ยนแนวทางใหม่ โดยเน้นเอาใจคนรุ่นใหม่มากขึ้น
bata แบรนด์รองเท้าคู่คนไทยแต่ไม่ใช่ของคนไทย
อย่างที่เกริ่นไว้ในตอนต้นว่า แบรนด์รองเท้าบาจานั้นทำตลาดในไทยมานาน นานมากจนหลายคนเข้าใจว่าแบรนด์นี้เป็น Local Brand ในไทยหรือเป็นแบรนด์ของคนไทยไปแล้ว แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่เลย หากย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้นของแบรนด์นี้ ก็ต้องย้อนกลับไปถึงปี ค.ศ. 1894 ที่ประเทศสาธารณรัฐเช็ก(ประเทศเชโกสโลวะเกียในขณะนั้น)
ชายผู้หนึ่งที่มีนามว่า “โทมัส บาจา” ได้ร่วมกับพี่ ๆ น้อง ๆ ของเขาสร้างโรงงานผลิตรองเท้าขึ้นมา แต่ไม่ทราบว่าเกิดความผิดพลาดประการใด ทำให้กิจการโรงงานผลิตรองเท้าไปได้ไม่ดีนัก กิจการเริ่มประสบปัญหาทางการเงิน จากที่เคยผลิตรองเท้าหนังจึงต้องเปลี่ยนวัสดุมาเป็นผ้าใบ เพื่อลดต้นทุนการผลิต
แต่กลับกลายเป็นว่ารองเท้าที่ทำจากวัสดุทดแทนที่เป็นผ้าใบนี้กลับฮิตขึ้นมาอย่างน่าประหลาด ทำให้ธุรกิจเริ่มฟื้น และกิจการเริ่มก้าวต่อไปได้ดี คุณโทมัสจึงเริ่มขยับขยายกิจการนำเอาเครื่องจักรระบบสายพานเข้ามาใช้ แต่โชคร้ายเมื่อวิกฤตสงครามโลกทั้งครั้งที่ 1 และ 2 ได้กระหน่ำซ้ำเติมกิจการรองเท้าของเขา แม้จะประสบปัญหาครั้งแล้วครั้งเล่าแต่เขาก็สู้ฝ่าฟัน
สิ่งที่ทำให้แบรนด์บาจาผ่านพ้นวิกฤตมาได้ก็คือ กลยุทธ์และวิสัยทัศน์ของคุณโทมัส บาจา ที่พยายามแก้ปัญหาโดยการนำสินค้ามาลดราคาในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ เพื่อประคองธุรกิจ ลดค่าจ้างพนักงานแต่ไม่ไล่ออกและใช้วิธีการชดเชยพนักงานด้วยสวัสดิการที่ดีขึ้น และที่สำคัญกับวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนว่า “จะผลิตรองเท้าให้คนทั่วโลกได้ใส่” จึงทำให้บาจาก้าวมาถึงทุกวันนี้
ปัจจุบันแบรนด์รองเท้าบาจาเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกและทำตลาดได้ในดีทั้งในยุโรป แอฟริกาเหนือ เอเชียและในอเมริกา
ได้เวลาผ่าตัดเพื่อเปลี่ยนแปลง
แม้ว่ารองเท้าบาจาจะเป็นที่รับรู้กันทั่วไปว่ามีความทนทาน มีคุณภาพดี แต่ภาพลักษณ์โดยรวม ๆ สำหรับตลาดรองเท้าในประเทศไทย บาจายังคงมีภาพลักษณ์ของแบรนด์รองเท้านักเรียนอยู่ หรือรองเท้าทั่วไปก็ยังเป็นทรงเก่า ๆ ที่ดูไม่โมเดิร์นสักเท่าไหร่ ซึ่งที่ผ่านมาบาจาพยายามที่จะคงคอนเซ็ปต์ความทนทานที่เหนือใครเอาไว้ แต่เมื่อโลกเปลี่ยนไป ทุกอย่างก็ต้องเปลี่ยนเพื่อความอยู่รอด
ตอนนี้แบรนด์บาจาจึงได้เวลาลุกขึ้นมาปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่ เปลี่ยนภาพลักษณ์เรื่องรองเท้านักเรียนให้กลายเป็นแบรนด์รองเท้าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่มากขึ้น มีทั้งรองเท้ากีฬาดีไซน์สวย ๆ และรองเท้าแตะลำลองทั้งผู้ชายผู้หญิงดีไซน์โมเดิร์นตอบโจทย์การสวมใส่ตอบแฟชั่นของคนยุคนี้มากขึ้น อย่างเช่น
แตะลำลอง WELL UP
รองเท้าส้นแบบผู้หญิงแบบรัดส้น
รองเท้าแตะส้นทึบแบบหนีบ
รองเท้าผ้าใบแฟชั่นแบบเชือก
นอกจากจะปรับเปลี่ยนการผลิตและดีไซน์แล้ว ช่องทางการขายก็มีปรับเปลี่ยนด้วยจากช็อปที่เป็นร้านออฟไลน์ตอนนี้ก็ขยับขึ้นมาขายบนออนไลน์ผ่านช่องทางของตนเองและมีขายบน Lazada ด้วย ซึ่งการปรับเปลี่ยนครั้งนี้ก็ได้ใจคนรุ่นใหม่อยู่ไม่น้อยสะท้อนได้จากยอดขายที่เพิ่มมากขึ้น
อีกหนึ่งแบรนด์รองเท้าที่อยู่ในใจคนไทยคนเก่า แต่วันนี้แบรนด์รองเท้าบาจาของปฏิวัติตนเองเพื่อมาเอาใจคนในยุคปัจจุบัน ด้วยการผลิตรองเท้าคุณภาพดีไซน์ใหม่ แต่ยังคงไว้ซึ่งความทนทานและคุ้มค่า 1 คู่ใช้กันได้นานแบบไม่มีเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะรองเท้าผ้าใบ รองเท้าหนัง แตะลำลอง รับรองว่ายังคงให้ความทนทาน สวมใส่สบายไว้เช่นเดิม แต่เพิ่มเติมคือความเท่สวยทันสมัย เชื่อว่าคนรุ่นใหม่ต้องชอบแน่
ติดตามบทความดีๆ กับเราได้ตลอด ที่นี่