น้ำหอม Dior

เคล็ดลับการเลือกซื้อ น้ำหอม Dior ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของตัวเองและหอมติดทนนาน

หากพูดถึงน้ำหอมที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน แน่นอนว่าหนึ่งในนั้นก็ต้องเป็น น้ำหอม Dior เพราะมีประวัติยาวนานมากว่า 76 ปี โดย Christian Dior ได้เริ่มเปิดตัวน้ำหอมกลิ่นแรกขึ้นในปี 1947 ชื่อว่า Miss Dior โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากน้องสาวของเขา เป็นกลิ่นที่ออกแบบขึ้นมาจากความรัก ความสุข และความสวยงาม ซึ่งน้ำหอมของเขาก็ได้รับความนิยมตั้งแต่เปิดตัว จวบจนถึงวันนี้ Dior ก็ยังคงไม่หยุดพัฒนาและได้ออกน้ำหอมซีรีส์ต่าง ๆ มากมายมาให้คนทั่วโลกได้สัมผัสกับกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์

ประเภทของ น้ำหอม Dior และความเข้มข้นที่ควรรู้ก่อนซื้อ!

· Eau Fraîche น้ำหอม Dior ชนิดนี้จัดเป็นน้ำหอมที่มีความเข้มข้นน้อยที่สุดของ Dior เพราะมีส่วนผสมของหัวน้ำหอมเพียงแค่ 1 – 3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง เป็นน้ำหอมสำหรับฉีดใช้แบบชั่วคราวหรือต้องการเพิ่มความหอมให้กับเรือนร่างในช่วงหลังอาบน้ำหรือฉีดระหว่างวัน ให้กลิ่นหอมติดทนได้ประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง

· Eau de Toilette (EDT) เป็นประเภทที่นิยมใช้ เพราะมีราคากลาง ๆ ไม่สูงจนเกินไป หอมติดทนได้ประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง มีส่วนผสมของหัวน้ำหอมประมาณ 15 – 20 เปอร์เซ็นต์ เหมาะสำหรับการฉีดใช้งานแบบชั่วคราว เช่น การออกไปนอกบ้าน การไปร่วมงานต่าง ๆ ที่ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมง

· Eau de Parfum (EDP) เป็นน้ำหอม ดิออร์ที่นิยมใช้เช่นกัน แต่จะมีราคาสูงกว่าแบบ EDT เพราะมีส่วนผสมของหัวน้ำหอมมากกว่า อยู่ที่ 15 – 20 เปอร์เซ็นต์ หอมติดทนได้ประมาณ 4 – 6 ชั่วโมง เป็นประเภทที่วัยทำงานส่วนใหญ่เลือกใช้ เพราะให้กลิ่นหอมได้ตลอดวัน ไม่ต้องคอยฉีดเพิ่ม

· Extrait de parfum เป็นน้ำหอมที่มีความเข้มข้นสูงที่สุด มีส่วนผสมของหัวน้ำหอมมากถึง 20 – 30 เปอร์เซ็นต์ ให้กลิ่นหอมนาน 8 – 12 ชั่วโมง หอมติดทนนานได้ตลอดทั้งวัน ชื่อ Extrait de parfum เป็นชื่อที่ทาง Dior เลือกใช้ แต่น้ำหอมประเภทนี้ยังใช้ชื่ออื่นอย่าง Parfum หรือ Pure fume ด้วย น้ำหอมประเภทนี้จะผลิตมาในขวดขนาด 0.5 oz หรือ 15 ml. เพื่อใช้แต้มตามบริเวณที่ต้องการ เพื่อให้กลิ่นไม่ฉุนจนเกินไป

เคล็ดลับการเลือกซื้อ น้ำหอมดิออร์ ให้ได้กลิ่นที่ถูกใจและเข้ากับตัวเอง

· ควรลองน้ำหอมก่อนซื้อ เพื่อให้ได้กลิ่นที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด ควรไปลอง น้ำหอมดิออร์ ด้วยตัวเองก่อนเลือกซื้อ เพราะน้ำหอมแต่ละกลิ่นจะมีดีเทลที่ต่างกันออกไป จึงควรไปลองดมด้วยตัวเองว่าชอบกลิ่นแบบไหน เพราะถ้าซื้อโดยไม่ได้ลองก่อนอาจทำให้ไม่ชอบกลิ่นนั้นได้

· อย่าตัดสินใจในทันที ไม่ควรตัดสินใจน้ำหอมกลิ่นนั้น ๆ ในทันที เพราะน้ำหอมจะให้กลิ่นได้ดีหลังจากที่ฉีดมาแล้ว 1 – 2 ชั่วโมง หากใครที่ได้ลองดมแล้วก็อย่าเพิ่งปัดตกไปซะก่อน แต่แนะนำว่าให้ฉีดใส่กระดาษเทสกลิ่นน้ำหอมกลับมาก่อน แล้วจึงค่อยลองดมใหม่อีกครั้ง ก็จะได้กลิ่นที่คล้ายกับการฉีดบนร่างกาย และอย่าลืมเขียนกำกับเอาไว้ด้วยว่าแต่ละกลิ่นมีชื่อเรียกว่าอะไร เพื่อจะได้เลือกซื้อถูกกลิ่น

· เลือกจากกลิ่นที่ชอบ หลังจากที่ได้กลิ่นที่ต้องการแล้ว ควรเลือกซื้อ น้ำหอม ดิออร์ ในกลิ่นที่ตัวเองชอบเป็นหลัก แม้อาจจะไม่ได้เป็นกลิ่นยอดฮิตหรือกลิ่นตามที่คนอื่นชอบแต่ก็ต้องไม่ลืมว่าคนที่ฉีดนั้นคือตัวเราเอง และเราจะได้กลิ่นนี้ไปตลอดทั้งวัน ซึ่งคงจะไม่ดีแน่หากฉีดแล้วไม่ชอบกลิ่นที่อยู่บนร่างกายของเราเอง

· เลือกจากความเข้มข้นของน้ำหอม ข้อนี้ถือว่าสำคัญมาก เพราะน้ำหอมแต่ละประเภทจะให้ความหอมได้ไม่เท่ากัน หากต้องการกลิ่นที่หอมติดนานตลอดวันควรเลือกน้ำหอมประเภท Eau de Parfum (EDP) เพราะจะหอมได้นานกว่า แต่หากต้องการใช้ระหว่างวันเหมาะสำหรับแบบ Eau de Toilette (EDT) หรือแบบ Eau Fraîche

· เลือกจากขนาด หากต้องการแบบพกติดตัวที่เหมาะสำหรับการเดินทางหรือหยิบมาใช้งานระหว่างวันได้ เหมาะสำหรับขนาด 5 ml., 30 ml. และ 50 ml. เพราะมีขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป แต่หากต้องการขนาดใหญ่แบบคุ้มค่า เหมาะสำหรับขนาด 100 ml. หรือขนาดใหญ่ที่สุด 150 ml.

น้ำหอมดิออร์ เป็นน้ำหอมที่ขึ้นชื่อเรื่องความหอม มีให้เลือกทั้งกลิ่นสำหรับผู้หญิงและผู้ชาย สามารถเลือกใช้ได้ทุกวัย ทุกโอกาส ส่วนการฉีดน้ำหอม ควรฉีดบริเวณข้อมือ ข้อพับ หลังใบหู ซอกคอ เพราะเป็นตำแหน่งที่ใกล้กับจุดชีพจร จะให้กลิ่นที่หอมยาวนานกว่า

น้ำหอม Dior