สีน้ำตาลคาราเมล

อยากย้อมผม สีน้ำตาลคาราเมล ทั้งทีต้องรู้เรื่องยาย้อมผม

การย้อมผมสีผมช่วยปรับให้ใบหน้ามีความสว่างขึ้น อย่าง สีน้ำตาลคาราเมล จะเป็นโทนสีที่รับกับสีผิวทุกสี ทำให้ใบหน้ามีความโดดเด่น อีกทั้งเส้นผมยังเงางามเมื่อสะท้อนกับแสงแดด แต่น้ำยาย้อมผมคือสารเคมีที่ทุกท่านต้องระมัดระวังในการใช้ และควรมีความรู้เกี่ยวยาย้อมผมเป็นพื้นฐานติดตัว เพราะถ้าไม่มีความเข้าใจการเลือกยาย้อมผมอาจส่งผลเสียต่อเส้นผม หนังศีรษะ และผิวหนังบริเวณใบหน้า ดวงตา และลำคอได้เลยทีเดียว 

ยาย้อมผมมีกี่ประเภท อยากเป็นสาวผมสีน้ำตาลคาราเมลต้องเลือกให้ถูก

ดังที่ได้กล่าวไปว่าการทำสีผม คือการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นสารเคมี เข้าไปช่วยทำให้สีผมเปลี่ยนเฉดสีไปจากสีเดิม ซึ่งปัจจุบันมีการพัฒนาเฉดสีให้มีความหลากหลายขึ้น เพื่อรองรับการใช้งานที่แต่ละคนมีความต้องการแตกต่างกัน ดังนั้นเพื่อเป็นเลือกใช้สารเคมีที่ถูกต้อง ได้สีผมสวยดังที่ต้องการ เราต้องทราบก่อนว่ายาย้อมผมนั้นแบ่งออกเป็น 3 ประเภทด้วยกัน

1. แบบชั่วคราว

มีประสิทธิภาพในการเปลี่ยนและปกปิดสีผมได้ชั่วคราวเท่านั้น โดยสีจะเริ่มหลุดและจางลงเมื่อผ่านการสระผม 1-2 ครั้ง สีผมก็จะกลับมาเป็นสีเดิม เหมาะสำหรับการใช้งานแบบเฉพาะชั่วคราว อย่างการออกงานในช่วงเวลาสั้น ๆ และลักษณะของยาย้อมผมแบบนี้จะนิยมบรรจุในรูปแบบของสเปรย์ สามารถฉีดแล้วใช้งานได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาในการผสม 

2. แบบกึ่งถาวร

ยังคงมีประสิทธิภาพในการเปลี่ยนและปกปิดสีผมได้อย่างไม่ถาวร โดยสีผมจะเริ่มจางลงเรื่อย ๆ หลังสระผมทุกครั้ง เฉลี่ยแล้วสีผมชนิดนี้จะอยู่ได้นานประมาณ 1 เดือน ก็จะกลับมาเป็นสีผมเดิม ซึ่งข้อดีของยาย้อมผมชนิดนี้ คือ ไม่ต้องผสม เพราะส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปแบบของโฟม แบบครีม และแบบยาสระผม ที่สามารถชโลมลงบนเส้นผมให้ทั่ว ทิ้งไว้สักพัก แล้วล้างออกได้เลย

3. แบบถาวร

เป็นรูปแบบที่มีการปกปิดและเปลี่ยนสีผมได้แบบถาวร อย่างสีน้ำตาลคาราเมล ที่เป็นสีสุภาพสามารถเข้าได้กับทุกกาลเทศะ ก็เป็นอีกหนึ่งเฉดสีที่นิยมทำสีผมกันแบบถาวร โดยยาย้อมผมแบบถาวรนี้ มีทั้งแบบการใช้งานเพื่อปกปิดผมขาว และการเปลี่ยนสีตามแฟชั่น ซึ่งสารเคมีหลักที่ทำให้สีผมสามารถติดทนนาน คือ ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ สีย้อมผม และแอมโมเนียเพื่อช่วยล็อกให้สีผมติดทน สีสวยนาน

วิธีเลือกยาย้อมผมสีน้ำตาลคาราเมลให้สีสวยและปลอดภัย

การทำสีผม อันดับแรกคุณต้องทราบก่อนว่า ต้องการทำสีผมเพื่อจุดประสงค์อะไร เช่น เพื่อไปออกงานชั่วคราว เพื่อปกปิดผมขาว เพื่อเปลี่ยนสไตล์ หรือเพื่อตามกระแสแฟชั่น เป็นต้น การได้ทราบความต้องการที่แท้จริง จะช่วยให้เลือกยาย้อมผมได้ถูก ส่วนข้อควรระวังเมื่อเลือกยาย้อมผมมีดังนี้

1. ทดสอบอาการแพ้ สำหรับผู้ที่ไม่เคยย้อมสีผมมาก่อน หรือไม่เคยใช้ยี่ห้อที่เลือกนั้น ๆ มาก่อน ให้ทดลองทายาย้อมผมที่หลังหู หรือใต้ท้องแขน แล้วทิ้งไว้ประมาณ 15-30 นาที เพื่อตรวจสอบอาการแพ้ของตนเอง หากพบว่ามีอาการแสบ หรือมีผื่นขึ้น แสดงว่ามีอาการแพ้ ให้เปลี่ยนยี่ห้อทันที 

2. อย่าลืมดูวันหมดอายุ วันหมดอายุเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เนื่องจากยาย้อมผมคือสารเคมี จึงไม่ควรใช้แบบที่หมดอายุ เพราะสารเคมีบางชนิดอาจจะเสื่อมประสิทธิภาพไปแล้ว ส่งผลให้ผมเสีย และยังมีอันตรายต่อผิวหนัง ห้ามนำมาใช้งานโดยเด็ดขาด

3. เลือกยี่ห้อที่มีชื่อเสียง เมื่อการทำผมสีน้ำตาลคาราเมล เรากำลังจะนำสารเคมีเข้าไปผสมกับเส้นผมบนศีรษะของเรา การเลือกยี่ห้อยาย้อมผมจึงควรเลือกยี่ห้อที่มีชื่อเสียง ได้รับการยอมรับ และอย่าลืมอ่านฉลากกำกับทุกครั้งก่อนซื้อ เพื่อให้ได้ทราบข้อมูลทั้งหมด ทั้งส่วนประกอบของสารเคมี และวันหมดอายุ

4. สำหรับสตรีมีครรภ์ มีรายงานออกมาแล้วว่าสารเคมีสำหรับย้อมผมนั้น มีปริมาณที่น้อยเกินกว่าจะทำร้ายทารกในครรภ์ แต่กลิ่นฉุนของยาย้อมผมสามารถกระตุ้นอาการแพ้ของคุณแม่ได้ และเพื่อความมั่นใจคุณแม่ควรปรึกษาแพทย์ให้แน่ใจก่อนว่าร่างกายของตนเองสามารถเข้ารับการทำสีผมได้ เพื่อความปลอดภัย

ยาย้อมผม สีน้ำตาลคาราเมล เป็นสีที่สวยและได้รับความนิยม แต่การเลือกซื้อในแต่ละครั้งควรอ่านฉลากอย่างละเอียด เพื่อป้องกันความผิดพลาด และที่สำคัญ คือ หากย้อมผมไปแล้วเกิดอาการแพ้ ให้ล้างยาย้อมผมออกทันที หากมีอาการผื่นแดง มีอาการแสบร้อนผิวหนัง ควรไปพบแพทย์ หรือปรึกษาเภสัชกร เพื่อขอรับยาแก้แพ้ ไม่ควรซื้อยารับประทานเอง

สีน้ำตาลคาราเมล

new balance 530

ไขข้อข้องใจ ทำไม new balance 530 ถึงกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง?

ในช่วงนี้มีคนพูดถึง new balance 530 กันมากขึ้น จนทำให้หลายคนเกิดความสงสัยว่าทำไมรุ่นนี้ถึงกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง ทั้งที่ไม่ได้เป็นรองเท้ารุ่นใหม่ แต่เป็นรุ่นที่เคยผลิตมานานกว่า 31 ปีแล้ว และด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้ใครต่างจับตามองและพูดถึงกันจำนวนมาก ส่วนจะมีดีอย่างไรและทำไมถึงฮิตสุด ๆ ในตอนนี้ เรามีมาบอกกัน

จุดเด่นของ new balance 530 ที่ทำใครต่างก็อยากเป็นเจ้าของ

· เป็นรองเท้าวิ่ง นิวบาลานซ์รุ่น530 เป็นรองเท้าที่ออกแบบมาสำหรับวิ่งโดยเฉพาะ เหมาะสำหรับใช้วิ่งออกกำลังกาย ตัวรองเท้าและพื้นรองเท้าจึงมีการออกแบบมาเป็นอย่างดีเพื่อช่วยซัพพอร์ตเท้า ข้อเท้า และช่วยรองรับสรีระได้เป็นอย่างดี 

· ดีไซน์สวยคลาสสิก ด้วยดีไซน์ที่ออกแบบมาอย่างเรียบง่ายและคลาสสิก จึงไม่ทำให้ดูเป็นรองเท้ากีฬามากจนเกินไป แต่ดูสวยงามเรียบง่ายและแอบหรูหรา จึงทำให้สามารถสวมใส่ได้หลายโอกาส ทั้งการใส่วิ่ง ใส่ออกกำลัง หรือใส่ในชีวิตประจำวัน

· สไตล์ Unisex หญิงหรือชายก็ใส่ได้ ต้องบอกว่าเป็นรุ่นที่ออกแบบมาดีจริง ๆ เพราะเป็นดีไซน์ที่สามารถใส่ได้ทุกเพศ ไม่ได้ดูแมนหรือดูหวานจนเกินไป แต่เป็นดีไซน์เรียบ ๆ ที่ใครก็สามารถใส่ได้

· มีการระบายอากาศที่ดี จุดเด่นของ รองเท้า New Balance รุ่นนี้เลยก็คือ ด้านข้างรองเท้าทั้งสองข้างผลิตจากวัสดุที่มีคุณสมบัติช่วยระบายอากาศได้ดี อากาศถ่ายเทได้สะดวก สวมใส่สบาย รองเท้าไม่อับและช่วยลดปัญหากลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ ลงได้

· น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย ด้วยเทคโนโลยีการออกแบบเฉพาะของ New Balance และเป็นรองเท้าสำหรับวิ่งจึงมีน้ำหนักที่เบาและทำให้สวมใส่สบาย

· พื้นรองเท้าแข็งแรง มีความทนทานสูง พื้นรองเท้าผลิตจากวัสดุอย่างดี ออกแบบมาให้ยึดเกาะพื้นได้ดีและรองรับสรีระในการเดินหรือวิ่ง พื้นรองเท้าด้านข้างออกแบบมาให้ตัวยึดเกาะ ทำให้ใส่วิ่งได้ดีและมีความแข็งแรง ช่วยให้มีอายุการใช้งานที่นานขึ้นได้

นิวบาลานซ์ กับประวัติที่น่าสนใจของแบรนด์

นิวบาลานซ์รุ่น530 เป็นรองเท้าที่เปิดตัวขึ้นรุ่นแรก ๆ ของแบรนด์นิวบาลานซ์ แต่ทราบหรือไม่ว่านิวบาลานซ์นั้นเดิมทีแล้วไม่ได้ผลิตรองเท้ามาตั้งแต่แรก แต่สินค้าแรกของแบรนด์คือ พื้นรองเท้า เป็นบริษัทเล็ก ๆ ที่ก่อตั้งโดย William Riley เมื่อปี 1906 ที่เมือง Boston, Massachusetts ประเทศสหรัฐอเมริกา เนื่องจากรองเท้าในยุคนั้นไม่ได้ใส่สบายเหมือนปัจจุบัน จึงผลิตพื้นรองเท้าขึ้นมาเพื่อช่วยให้ใส่รองเท้าได้สบายขึ้น 

จุดเปลี่ยนของแบรนด์ เริ่มจากการที่เขาได้ไปสังเกตการเดินของไก่ ว่าทำไมไก่ถึงสามารถเดินได้อย่างบาลานซ์ทั้งที่มีขาเล็กนิดเดียวแต่ตัวใหญ่ จึงได้มองเห็นการกระจายน้ำหนักของขาไก่และเกิดเป็นไอเดียในการผลิตรองเท้าวิ่งขึ้นในปี 1938 โดยช่วงแรกได้เริ่มจากการผลิตรองเท้าให้กับนักกีฬาก่อน ต่อมาในปี 1972 Jim Davis ได้เข้าซื้อกิจการต่อ จากนั้นก็ได้เริ่มผลิตและวางจำหน่าย รองเท้า New Balance รุ่นแรกขึ้นในปี 1976 ชื่อรุ่น “NewBalance320” เป็นรองเท้าวิ่งรุ่นแรกที่มีโลโก้รูปตัว “N” อยู่ด้านข้าง ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์มาจนถึงปัจจุบัน ส่วนรุ่น530 ถูกผลิตขึ้นในปี 1992 หรือหลังจากน้ันประมาณ 16 ปี 

ทำไม นิวบาลานซ์530 ถึงเป็นรุ่นที่กลับมานิยมอีกครั้ง?

new balance 530 กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งจากที่นักร้องสาวสวยชื่อดัง “IU” (ไอยู) หรือ อี จีอึน ได้มาเป็น Global Ambassador ให้กับแบรนด์ New Balance ในรุ่น 840 จนทำให้ชาวเกาหลีหันมาให้ความสนใจนิวบาลานซ์กันจำนวนมาก รวมถึงซีรีส์และรายการต่าง ๆ ที่นักแสดงหรือศิลปินดาราของเกาหลีใต้สวมใส่รองเท้าของนิวบาลานซ์ออกอากาศให้เห็นกันมากขึ้น จนทำให้ได้รับความนิยมไปในหลายประเทศ ๆ อีกทั้งทางฝั่งยุโรปเองก็ยังมีดารานักร้องชื่อดังหลายคนสวมใส่ด้วยเช่นกัน โดยรุ่นที่ถือว่ามาแรงที่สุดคือรุ่น530 เพราะเป็นรุ่นคลาสสิกที่มาพร้อมกับกระแส Y2K ที่ผลิตออกมากี่คู่ก็ Sold Out จนต้องสั่งจองกันเอาไว้ล่วงหน้า แถมราคาก็ยังพุ่งขึ้นสูงไปเกือบเท่าตัว

สำหรับใครทื่ชื่นชอบ นิวบาลานซ์530 สามารถหาซื้อมาใส่กันได้ มีให้เลือกทั้งมือ 1 และมือ 2 ผลิตออกมาหลายสี โดยในปัจจุบันนี้ New Balance ได้มีฐานการผลิตอยู่ใน 3 ประเทศได้แก่ สหัฐอเมริกา จีน และอินโดนีเซีย 

new balance 530

จัดอันดับเมคอัพ

จัดอันดับเมคอัพ มาแรงตามเทรนด์แฟชั่นปี 2023 

ผู้หญิงกับความสวยความงามเป็นของคู่กัน เมคอัพหรือเครื่องสำอางถือกำเนิดขึ้นมาคู่กับเหล่าอิสตรีตั้งแต่ครั้งโบราณกาล จนถึงปีล่าสุดอย่าง 2023 เทรนด์เมคอัพก็มีการพัฒนาต่อเนื่องไปอย่างไม่หยุดยั้ง จนเกิดการ จัดอันดับเมคอัพ ตามเทรนด์แฟชั่นขึ้นมา เราไปดูกันดีกว่าว่าปี 2023 จะมีเมคอัพชิ้นไหนมาแรงแซงทางโค้งบ้าง

เทรนด์เมคอัพมาแรงกับการจัดอันดับเมคอัพแห่งปี 2023

สาว ๆ จ๋า…เริ่มเข้าสู่ปีใหม่แล้ว ตัวเราเองก็ต้องมีสิ่งใหม่ ๆ เปลี่ยนตามไปด้วย เทรนด์เมคอัพก็เช่นกัน ในปี 2023 นี้มีเทรนด์มาแรงที่สาว ๆ ต้องอัปเดตไว้ก่อนจะเอาท์ 

1. เทรนด์แต่งหน้าแบบโชว์ผิว หรือ Clear Skin เทรนด์ลุคธรรมชาติที่เน้นการโชว์ผิวธรรมชาติ ลงรองพื้นอ่อนๆ ไม่เน้นฉ่ำวาวอย่างที่ผ่านมา แต่เน้นความสวยของผิว สาว ๆ ที่เน้นลุคนี้ต้องดูแลผิวหน้าของตัวเองให้ดีก่อนเป็นอันดับแรก เพราะเราจะไม่เน้นรองพื้น ดังนั้นผลิตภัณฑ์รองพื้นที่เลือกใช้ต้องเป็นรองพื้นประเภทเนื้อแมทที่จะช่วยเบลอรูขุมขนให้ผิวหน้าดูเรียบสวยเนียนบางเบาเป็นธรรมชาติ ซึ่งก็มีตัวเลือกตามการจัดอันดับเมคอัพสายรองพื้น ดังนี้

– Cathy Doll Speed White CC Cream SPF50+ PA+++ ครีมรองพื้นลายเสือในตำนานที่ตอบโจทย์ลุคธรรมชาติได้อย่างดี ช่วยลดเลือนริ้วรอย คุมความมันยาวนานกว่า 12 ชั่วโมง มี 6 เฉดสีให้เลือกใช้ตามสภาพผิว

–  LANEIGE Neo Cushion Matte คุชชั่นที่ช่วยลดปัญหารอยแดง รูขุมขนกว้างได้เป็นอย่างดี ปกปิดได้ยาวนานถึง 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องเติม แถมสรรพคุณป้องกันแสงแดด กันเหงื่อ กันมัน เนื้องบางเบา ไม่หนักหน้า

2. เทรนด์แต่งหน้าสไตล์โดนัทเคลือบน้ำตาล หรือ Glazed Donut ที่เน้นการปัดไฮไลต์ให้ผิวแวววาวตั้งแต่โหนกแก้มลงมาถึงส่วนขมับและดวงตา เพื่อเพิ่มมิติ จุดเด่นคือการเลือกใช้ไฮไลท์เตอร์ตามการจัดอันดับเมคอัพ ดังนี้

– Meilinda Glow Up Skin Highlighter ไฮไลต์เนื้อแป้งผสมผงมุกและชิมเมอร์ ช่วยเบอลผิวให้ดูเนียนขึ้น สวยได้ทุกสภาพผิว และทุกโทนสีผิว มีให้เลือก 3 โทนสีผิว คือ Candle Light, Diamond Glow และ Champagne 

– KIKO MILANO Radiant Touch Creamy Stick Highlighter ไฮไลท์เตอร์แบบแท่งเนื้อเนียน ที่ช่วยลดความกว้างของรูขุมขน และช่วยทำให้หน้าฉ่ำวาวดูเป็นธรรมชาติ

3. เทรนด์แต่งหน้าแบบคุมโทนสีเดียว หรือ Monochrome Makeup เน้นการใช้ผลิตภัณฑ์ชิ้นเดียวครอบคลุมทุกส่วนของใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นเปลือกตา แก้ม ปาก เรียกได้ว่าเป็นลุคเมคอัพที่เซฟงบในกระเป๋าของสาวๆ ได้มากทีเดียว ผลิตภัณฑ์แนะนำตามการจัดอันดับเมคอัพ คือ

– 4U2 BLINK BLINK GLITTER LIPSTICK ลิปสติกปากวิงค์ มีทั้งแบบเนื้อแมทและเนื้อชายน์ ให้ลุคสาย ฝอ และสายเกาในแท่งเดียว เนื้อกลิตเตอร์ไม่หลุดง่าย สวยได้แบบ 3 in 1 ทั้งตา ปาก แก้มครบ มีให้เลือกถึง 12 เฉดสีเลย

– Uslike บลัชออนปัดแก้มแบบลิควิดกันน้ำ ที่สามารถแปลงร่างได้เป็นลิปสติกและอายแชโดว์ สีนู้ด 3เฉดสีที่สวยลงตัวในแท่งเดียว

4. เทรนด์แต่งหน้าแบบไร้คิ้ว หรือ Bleached Blows เป็นเทรนด์สวยแปลกตาที่ได้รับความนิยมมาจากนางแบบบนรันเวย์ เทรนด์นี้จะเน้นที่การลงรองพื้นให้คิ้วมีสีบาง ๆ เหมือนหายไปหรือกลืนไปกับใบหน้า ถือเป็นลุคที่แปลกตามากเลยล่ะ ลุคนี้จะเน้นที่เมคอัพสายคอนซีลเลอร์ที่เน้นปกปิด และลบเลือน เช่น

– LAURA MERCIER Secret Camouflage Brighten & Correct Duo คอนซีลเลอร์แบบ 2 in 1 ที่ใช้ได้ทั้งหน้า และขอบตา แต่เราจะเอามาใช้ในการลบคิ้วด้วย สูตรไฮพิกเมนต์ เนื้อสีแน่น มีให้เลือกถึง 16 เฉดสีตามลักษณะสีผิว

– Canmake Cover&Stretch Concealer UV คอนซีลเลอร์เนื้อครีมที่ช่วยลดรอยคล้ำ และสิวฝ้ากระ แถมสารป้องกันแสงแดด 30 เท่า มีให้เลือก 2 เฉดสีคือ Yellow Beige และ Natural Beige

เพราะความสวยไม่มีวันหมดอายุ สาว ๆ อย่างเราจึงต้องตามเทรนด์อยู่เสมอเพื่อไม่ให้เอาท์ ใครสนใจเทรนด์ไหนก็ลองเอาไปแต่งตามกันดู อย่าลืมลองนำผลิตภัณฑ์ที่แนะนำตามการจัดอันดับเมคอัพนี้ไปลองใช้กันด้วยนะ จะได้เป็นสาวสวยติดเทรนด์แบบมั่นหน้าได้อย่างไม่ใจไม่อายใครกันไปเลยจ้า

เครื่องสำอาง ดีที่สุด 2023

คัดมาแล้ว! เครื่องสำอาง ดีที่สุด 2023 เทรนด์เน้นงานผิว ในยุคนี้ต้องเป็นยังไง

ถ้าหากสาว ๆ อยากแต่งหน้าตามเทรนด์เน้นงานผิว ยังไงก็ต้องมี เครื่องสำอาง ดีที่สุด 2023 เอาไว้ในครอบครองกันก่อน สำหรับการแต่งหน้าตามเทรนด์เน้นงานผิวนั้น เป็นเทรนด์การแต่งหน้าที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้ เพราะเป็นการแต่งหน้าสไตล์เรียบง่าย เน้นการโชว์ผิวสวยที่แท้จริงของคุณเอง และยังเป็นการแต่งหน้าง่าย ๆ ที่ช่วยให้คุณพร้อมเปล่งประกายได้ในทุกโอกาสอีกด้วย

เครื่องสำอางในยุคนี้มีแต่ของดี น่าใช้ เต็มไปหมด จนคุณอาจจะเลือกไม่ถูกกันเลยทีเดียว วันนี้เราจึงได้รวบรวมไอเทมเครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้าตามเทรนด์เน้นงานผิว ที่ในยุคนี้ คุณต้องมีพกติดกระเป๋ากันเอาไว้เตรียมความพร้อมอยู่เสมอ รวมไปถึงคุณสมบัติเด็ดที่ควรมีด้วย จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย!

แต่งหน้าเน้นงานผิว ต้องมีเครื่องสำอาง ดีที่สุด 2023 ตามนี้!

เครื่องสำอาง ดีที่สุด 2023 สำหรับนำมาแต่งหน้าตามเทรนด์เน้นงานผิว ต้องมีคุณสมบัติเด่นเฉพาะตัว เพื่อให้คุณแต่งหน้าออกมาแล้ว มีความสวยใส เผยผิวเป็นธรรมชาติ มีออร่าในแบบฉบับของตัวเอง แต่ก็ดูเหมือนไม่ได้แต่งหน้า ในขณะเดียวกันก็ต้องสามารถปกปิดริ้วรอย ฝ้า กระ หรือจุดด่างดำต่าง ๆ ที่คุณต้องการปกปิดได้อย่างเรียบเนียนอีกด้วย 

· รองพื้น

แน่นอนว่าก่อนแต่งหน้า จะลืมการรองพื้นไปไม่ได้เลย เพราะจะช่วยทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียน ช่วยพรางรอยแดง รอยดำ ฝ้า กระ หรือจุดด่างดำต่าง ๆ ที่ต้องการปกปิดได้ รวมไปถึงคุณสมบัติในการช่วยป้องกันผิวหน้า ไม่ให้โดนทำร้ายจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย เรียกได้ว่ามีพกติดกระเป๋ากันไว้ ก็ทำให้อุ่นใจ สามารถเตรียมตัวสวยได้ตลอดเวลา สำหรับเทรนด์การแต่งหน้าแบบเน้นงานผิว ก็สามารถใช้รองพื้นที่มีเนื้อบางเบา แต่ปกปิดได้อย่างดีเยี่ยม เหมาะกับการแต่งหน้าสไตล์ Everyday Look 

 รองพื้นชนิดน้ำ หรือเนื้อลิควิด เนื้อแบบนี้ จะเกลี่ยง่ายมาก ๆ แม้แต่มือใหม่ก็สามารถเกลี่ยให้เรียบเนียนได้โดยใช้เวลาไม่มาก จุดเด่นจะอยู่ตรงที่เนื้อที่บางเบา ทำให้ไม่หนักหน้า ทำให้หน้าดูมีมิติขึ้น ช่วยปกปิดจุดบกพร่องต่าง ๆ บนใบหน้าได้ดี แต่หน้าก็ยังดูไบร์ท ใส โชว์ผิวหน้าได้ตามต้องการ 

 คุชชั่น เป็นรองพื้นชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทั้งสาว ๆ ที่เป็นมือใหม่ในการแต่งหน้า หรือคนที่แต่งหน้าเก่งแล้ว ยังไงก็ต้องเคยใช้ เพราะคุชชั่นใช้งานสะดวก ด้วยการใช้คู่กับพัฟฟองน้ำ ใช้เติมหน้าระหว่างวันได้เหมือนกับแป้งพัฟ และมีส่วนผสมมากมายทั้งรองพื้น ครีมกันแดด และครีมบำรุง คุณสมบัติเด่นของเจ้าคุชชั่นนี้ ที่เหมาะกับการแต่งหน้าสไตล์เน้นงานผิว นั่นก็คือ ใช้แล้ว ผิวจะเรียบเนียน ฉ่ำวาว ผิวดูชุ่มชื้นและสุขภาพดี รับรองว่าแต่งหน้าแล้วคุณจะได้ลุคสวยใส เหมือนสาวเกาหลีเลยทีเดียว

· แป้งพัฟ

แป้งพัฟ เป็นไอเทมความสวยที่สาว ๆ จะขาดไปไม่ได้เลย ด้วยอากาศในเมืองไทยที่ร้อนขนาดนี้ ทำให้เกิดเหงื่อระหว่างวัน และทำให้หน้าดรอปลงได้ สำหรับการแต่งหน้าแบบเน้นงานผิว หากใช้รองพื้นไปแล้ว ก็สามารถใช้เป็นแป้งพัฟที่ไม่ผสมรองพื้นได้เลย เพราะจะทำให้ไม่หนักหน้าจนเกินไป แต่งหน้าแล้วให้ความรู้สึกเบา สบายหน้า ทำให้หน้าดูกระจ่างใส ไม่ดรอประหว่างวัน จะเป็นแป้งที่ให้ความโปร่งแสง ติดทนนาน เบลอรูขุมขนได้ดี แถมยังช่วยปกปิดได้อย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย 

· ดินสอเขียนคิ้ว

เพราะคิ้ว คือ มงกุฎของใบหน้า วันไหนที่รีบ ๆ แล้วลืมเขียนคิ้ว ก็จะทำให้สาว ๆ หมดความมั่นใจไปได้เลย จึงควรมีดินสอเขียนคิ้ว พกติดกระเป๋ากันไว้ด้วย สำหรับในปี 2023 ที่เทรนด์เน้นงานผิวกำลังมาแรงขณะนี้ ต้องไม่พลาดดินสอเขียนคิ้วเนื้อต่าง ๆ เหล่านี้!

เนื้อแว๊กซ์ จะเป็นเนื้อเนียนนุ่ม ทำให้สามารถเขียนวาดกรอบคิ้วได้ง่าย ที่สำคัญเนื้อแว๊กซ์ยังติดทนนาน ให้สีสวยแบบไม่โป๊ะอีกด้วย ยิ่งใช้คู่กับหัวแปรงสำหรับปัดคิ้วที่มาคู่กัน ก็จะยิ่งทำให้คิ้วของคุณฟุ้งสวย ดูเป็นธรรมชาติสุด ๆ เหมาะกับการแต่งหน้าสไตล์เน้นงานผิว

เนื้อครีม ดินสอเขียนคิ้วเนื้อครีม จะให้สีสวย และแน่น เขียนออกมาแล้วจะได้กรอบคิ้วที่คม แต่ก็ดูละมุนตา ที่สำคัญยังมีคุณสมบัติการกันน้ำได้ดีอีกด้วย

เนื้อดินสอ ถ้าอยากแต่งหน้าเน้นงานผิวแบบเรียลสุด ๆ ต้องลองใช้ดินสอเขียนคิ้ว แบบเนื้อดินสอเลย เพราะเป็นรูปแบบที่วาดทรงคิ้วได้ง่ายมาก เม็ดสีแน่น ให้สีสวยฟุ้ง ดูเหมือนเป็นสีคิ้วธรรมชาติของคุณเลย 

· บลัชออน

เน้นงานผิว ก็ต้องไม่ลืมบลัชออน มาช่วยเติมสีชมพูระเรื่อ ๆ ที่แก้ม ในยุคนี้ก็ทำออกมาน่ารักหลายแบบ ทั้งรวมคอลเลคชั่นสีสุดฮิต หรือโทนสีตามสไตล์การแต่งหน้า ที่มีหลายสีอยู่ในอันเดียว โดยบลัชออน มีเนื้อสัมผัสอยู่ 2 แบบที่น่าสนใจในการนำมาช่วยเติมเต็มลุคเน้นงานผิวนี้

เนื้อครีม แบบเนื้อครีม จะมีความเนียนนุ่ม เกลี่ยง่าย ติดทนนาน ทำให้ได้สีที่เนียนไปกับพวงแก้ม ดูเป็นธรรมชาติมาก ๆ

 เนื้อฝุ่น แบบเนื้อฝุ่น ทำให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องคราบบนใบหน้า เมื่อเกิดเหงื่อ ให้ลุคที่สดใส ดูละมุน อย่างเป็นธรรมชาติ เมื่อผิวหน้ากระทบกับแสงแดด จะทำให้ใบหน้าดูมีมิติ ดูเป็นสาวที่มีสุขภาพดีจากภายใน

เป็นยังไงกันบ้างกับเครื่องสำอาง ดีที่สุด 2023 บอกเลยว่าถ้าคุณจะแต่งหน้าแบบเน้นงานผิว แล้วไม่มีเหล่าไอเทมความสวยที่เรานำมาแชร์ ต้องตกเทรนด์แน่ ๆ รับรองว่าแต่ละตัวนั้น เหมาะกับการแต่งหน้าตามเทรนด์เน้นงานผิว ขึ้นแท่นติดชาร์จอันดับต้น ๆ อย่างแน่นอน และเหล่า Beauty Blogger สายเน้นงานผิว ต่างก็รีวิวกันว่าดี และปังอีกด้วย! 

เครื่องสำอาง ดีที่สุด 2023

สกินแคร์ ดีที่สุด 2023

รวม 4 ไอเทมผิวใส สกินแคร์ ดีที่สุด 2023 ต้องบอกต่อ!

เชื่อได้เลยว่าใคร ๆ ก็อยากมีผิวดีเนียนใส แต่อากาศประเทศไทยดูจะไม่เป็นใจเท่าไหร่ สกินแคร์ จึงมีส่วนช่วยแก้ไขปัญหาหนักใจนี้ได้ เพราะอากาศประเทศไทยค่อนข้างร้อนชื้น แน่นอนว่าเหงื่อเราก็จะออกง่าย แดดที่ร้อนจัดก็จะทำร้ายผิวของเรา รวมไปถึงมลพิษทางอากาศที่ส่งผลให้ผิวของเราแพ้ง่ายขึ้น หลาย ๆ คนก็มีปัญหาผดผื่น สิว ริ้วรอยและเจอปัญหาผิวสารพัดจนหนักใจ แต่อย่างไรก็ตาม หากเรามีการบำรุงที่ดีด้วย สกินแคร์ ดีที่สุด 2023 ก็จะช่วยให้ผิวของเราแข็งแรงมากขึ้น เราก็จะสามารถมีผิวที่เนียนสวยได้เช่นกัน

ใช้ดีบอกต่อ! 4 สกินแคร์ ดีที่สุด 2023 บอกลาปัญหาผิวเสีย

1. มอยเจอร์ไรเซอร์ CLINIQUE Moisture Surge

ไม่ว่าจะผิวมัน ผิวแห้ง หรือผิวผสม มอยเจอร์ไรเซอร์ก็นับเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับทุกคน เพราะมีหน้าที่ช่วยเสริมสร้างให้ผิวของเราแข็งแรงมากขึ้น เนื้อเจลของ CLINIQUE Moisture Surge ให้ความรู้สึกสบายผิว แถมยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวได้กว่า 100 ชั่วโมง!

2. เซรั่ม Eucerin Spotless Brightening Booster Serum

ผลิตภัณฑ์เวชสำอางชื่อดังที่ทุกคนรู้จักกันดี Eucerin เซรั่มสำหรับลดจุดด่างดำ เพิ่มความสว่างใสให้กับผิวของเรา ติดอันดับสกินแคร์ ดีที่สุด 2023 เพราะเป็นเซรั่มที่ได้รับรองผ่านข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ แก้ไขปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด กำจัดและหยุดวงจรฝ้าแดดแบบถาวร จำเป็นต้องใช้แบบต่อเนื่องร่วมกับครีมกันแดด

3. เซรั่มทีทรี Plantnery Tea Tree Acne Microbiome Intense Serum

เซรั่มทีทรีเข้มข้น เป็นเซรั่มที่มีคุณสมบัติช่วยลดสิวและป้องกันสิวที่จะเกิดใหม่โดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นสิวอุดตัน สิวอักเสบ รวมไปถึงทำให้รูขุมขนกระชับด้วย เหมาะกับคนผิวหน้ามันสุด ๆ เซรั่มทีทรีเป็นสกินแคร์ ดีที่สุด 2023 มีราคาที่ย่อมเยาว์ สบายกระเป๋า สามารถหาซื้อได้ง่าย แถมยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ออแกนิคอีกด้วย

4. เซรั่ม Estee Lauder Advanced Night Repair

สายบิวตี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก Estee Lauder แบรนด์ไฮเอนด์ชื่อดัง เซรั่ม Advanced Night Repair ที่มียอดขายอันดับ 1 ในเอเชีย เพราะรวบรวมสารสกัดคุณภาพดีไว้ในขวดเดียว ช่วยลบเลือนริ้วรอย ทำให้ผิวใสเปล่งประกาย ผิวดูสุขภาพดี และช่วยให้ผิวกระชับด้วย ได้รับการทดสอบโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เหมาะกับคนที่มีผิวแพ้ง่าย เพราะเป็นเซรั่มที่อ่อนโยนต่อผิว

ขั้นตอนดูแลผิวให้เนียนใสแบบมือโปร

อย่างที่กล่าวไปในข้างต้นว่า ปัญหาผิวหลัก ๆ อาจจะเกิดขึ้นได้จากสภาพอากาศและมลพิษต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวของเรา แต่สำหรับบางคนก็อาจจะมองข้ามขั้นตอนการดูแลผิวไป จึงเป็นต้นเหตุที่ทำให้ผิวอาจจะไม่เรียบเนียนได้ เราจำเป็นต้องใส่ใจการดูแลผิวให้มากขึ้น โดยใช้ 3 ขั้นตอนดูแลผิวง่าย ๆ ดังนี้

1. ทำความสะอาดผิวด้วยคลีนซิ่ง

สาว ๆ คนไหนที่แต่งหน้าแล้วไม่ชอบใช้คลีนซิ่ง ยอมรับสารภาพมาเดี๋ยวนี้ หรือไม่บางคนก็ล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าเฉย ๆ ไม่ก็ในกรณีที่หนักที่สุดคือ นอนหลับไปทั้งเครื่องสำอางเลย ส้มหยุด! ห้ามทำพฤติกรรมเหล่านี้เด็ดขาด เพราะเสี่ยงเกิดสิวอุดตันแน่นอน เราจำเป็นต้องใช้คลีนซิ่งเช็ดหน้าทุกครั้งก่อนจะล้างหน้าด้วยโฟมหรือคลีนเซอร์ เพื่อการทำความสะอาดที่ล้ำลึก

2. โทนเนอร์ช่วยปรับสมดุลผิว

หลังจากล้างหน้าเรียบร้อยแล้ว เราจำเป็นต้องใช้โทนเนอร์เช็ดหน้าต่อ เพื่อเป็นการปรับสมดุลค่า PH ให้ผิวหน้าของเรา จัดการและควบคุมพวกความมันส่วนเกินบนใบหน้าด้วย นับว่าเป็นการเตรียมผิวสวยก่อนที่จะทำการบำรุงผิวในขั้นตอนต่อไปด้วยสกินแคร์

3. เลือกใช้สกินแคร์ที่เหมาะสม

เลือกใช้ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ที่เหมาะสมสำหรับประเภทผิวของเรา ร่วมกับพิจารณาปัญหาหลักของผิวเราด้วย เพื่อให้สกินแคร์ช่วยทำหน้าที่ปรับปรุงสภาพผิวและบำรุงผิวให้มีความชุ่มชื้นสุขภาพดี ไม่ว่าจะเป็นเซรั่ม, มอยเจอร์ไรเซอร์, น้ำตบ และอื่น ๆ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม สกินแคร์ นั้นไม่ใช่การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไว้เสริมความสวยงามเหมือนกับเครื่องสำอาง แต่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องใช้อย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาสุขภาพผิวหน้าให้ดูดีและมีสุขภาพดี หากเราบำรุงผิวหน้าของเราอย่างสม่ำเสมอ เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม ผิวหน้าของเราก็จะเนียนใส ทำให้สามารถแต่งหน้าได้ง่ายและติดทนมากยิ่งขึ้นด้วย

สกินแคร์ ดีที่สุด 2023

กันแดด ดีที่สุด 2023

ไขความลับนางฟ้า 4 กันแดด ดีที่สุด 2023 แดดแรงแค่ไหนก็ไหว!

ครีมกันแดดเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความสำคัญในการปกป้องผิวจากผลกระทบของแสงแดดที่เป็นอันตรายได้ ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีแดดแรงจัดในแทบทุกฤดูกาล กันแดดจึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่สำคัญ เราจำเป็นต้องใช้ทุกวันและพกติดไว้กับตัวเสมอ ซึ่งกันแดดเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีหลากหลายแบรนด์ให้เลือกใช้  เราสามารถเลือกกันแดดที่เหมาะสมต่อสภาพผิวของเรา และเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในงบประมาณที่ตนเองจำกัดได้ เราจึงรวบรวม กันแดด ดีที่สุด 2023 ที่ราคาน่ารักและสบายกระเป๋ามาให้ทุกคนนำไปประกอบการตัดสินใจอีกทางหนึ่ง

เปิดลิสต์ 4 กันแดดที่ดีที่สุด 2023 สวยสู้แดดสุด ๆ !

1. KA UV Protection BabyFace SPF 42 PA+++

กันแดดในตำนานจะเป็นยี่ห้อไหนไปไม่ได้เลยนอกจาก KA กันแดดหน้าเด็ก ราคาสบายกระเป๋า แต่สวยท้าแดดได้สุด ๆ มีเนื้อครีมบางเบา ไม่ทำให้เหนียวเหนอะหนะผิวหน้า เน้นสบายผิวและทำให้เครื่องสำอางติดทนนานมากขึ้น เนื้อครีมช่วยปรับสีผิวได้ด้วย สามารถใช้แทนรองพื้นได้เลย

2. Biore UV Oil Control Milk SPF50+ PA++++

กันแดด Biore ชื่อดังที่มีให้เลือกหลาย ๆ สูตร แต่ว่าความพิเศษของ Biore UV Oil Control Milk SPF50+ PA++++ น่าสนใจมาก เพราะเป็นกันแดดสูตรน้ำนม เนื้อบางเบา ควบคุมความมันได้อย่างดี เนื้อของกันแดดสามารถปรับสีผิวได้ด้วย สามารถนำมาใช้เป็นเบสก่อนลงรองพื้นได้ ทำให้ผิวขาวใส กันแดดสามารถกันน้ำได้ด้วย รับรองว่าเครื่องสำอางของเราจะไม่ไหลเยิ้มระหว่างวันแน่นอน

3. Canmake Mermaid Skin Gel UV SPF 50+ / PA++++

กันแดดเนื้อเจลรุ่นนางเงือกในตำนานของ Canmake ที่มีให้เลือกทั้งไม่มีสีและมีสีปรับพื้นผิว สามารถใช้ได้ทั้งกับผิวหน้าและผิวกาย ให้ความรู้สึกสดชื่นเมื่อทาบนผิว กันแดดจะแตกตัวเป็นน้ำที่สามารถซึมลึกสู่ผิวได้รวดเร็ว ความเหนียวเหนอะหนะเป็นศูนย์ คัดสรรสารสกัดจากธรรมชาติกว่า 85% เพื่อผิวที่เนียนนุ่มและฉ่ำเด้งสวยตลอดวัน

4. Mizumi UV Water Active Sport

Mizumi เป็นแบรนด์น้องใหม่ที่มาแรงมาก ใครที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง ไปเที่ยวทะเล ชอบเล่นกีฬา หรือทำกิจกรรมที่สนุกสุดเหวี่ยง ต้องใช้กันแดด ดีที่สุด 2023 รุ่น Mizumi UV Water Active Sport เท่านั้น! เนื้อกันแดดเป็นเซรั่มที่กันน้ำได้ยาวนาน มีสารต้านอนุมูลอิสระ แถมเกลี่ยง่ายได้ผิวสวย รับประกันว่าทาแล้วหน้าไม่ลอย

รู้หรือไม่! ทำไมต้องใช้ ครีมกันแดด

1. ป้องกันการเกิดผิวคล้ำเสีย ผิวไหม้ แสงแดดมีรังสี UV ที่สามารถทำให้ผิวของเราคล้ำเสียและเกิดผิวไหม้ได้ การใช้กันแดด ดีที่สุด 2023 มีส่วนช่วยในการลดปัญหาผิวเหล่านั้นที่มากวนใจเราได้ เพราะผลิตภัณฑ์กันแดดจะช่วยปกป้องไม่ให้รังสี UV เข้าสู่ผิวหนังของเรา

2. ป้องกันการเกิดริ้วรอยและลดการทำลายคอลลาเจน : รังสี UV เป็นสาเหตุหลักของการเสื่อมสภาพเซลล์ใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดริ้วรอย และลดความยืดหยุ่นของผิวด้วยการทำลายคอลลาเจน ดังนั้นการใช้กันแดดจะช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของผิวหนัง รักษาความยืดหยุ่นและลดการเกิดริ้วรอย

3. ลดความเสี่ยงเกิดมะเร็งผิวหนัง : อย่างที่กล่าวไปว่า รังสี UV สามารถเข้าทำลายเซลล์ผิวหนังในระดับลึก และเป็นสาเหตุของมะเร็งผิวหนัง การใช้กันแดดจะมีส่วนช่วยในการลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนัง

4. ป้องกันอาการอักเสบของผิวหนัง : แสงแดดสามารถทำให้ผิวหนังอักเสบและแดง เนื่องจากการระคายเคืองผิว การใช้กันแดด ดีที่สุด 2023 จะช่วยลดการอักเสบของผิว และรักษาผิวหน้าของเราให้สม่ำเสมอ

5. ทำให้สุขภาพผิวดี ผิวไม่แก่ไว : การใช้กันแดดเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลผิวหน้าที่เราจำเป็นต้องทำเป็นประจำในทุก ๆ วัน เพื่อรักษาผิวให้เนียนนุ่ม ชุ่มชื้น และสุขภาพดี แม้จะไม่ได้ออกตากแดดข้างนอก เราก็ยังจำเป็นต้องทากันแดด เพราะแสง UV สามารถทะลุเข้ามาสัมผัสผิวของเราได้นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม เราควรเตือนตัวเองให้ใช้ กันแดด ดีที่สุด 2023 ในทุก ๆ วัน เพื่อช่วยปกป้องผิวหน้าและร่างกายของเราเอง ไม่ว่าจะเป็นช่วงฤดูร้อน ฤดูฝน หรือฤดูหนาวก็ต้องใช้ เพราะแสงแดดยังส่งผลกระทบต่อผิวหน้าและร่างกายในทุกเวลา กันแดดมีประโยชน์ต่อผิวของเราอย่างมาก เลือกสิ่งที่ดีและเหมาะสมให้กับผิวของตนเอง เพื่อผิวสวยใสและสุขภาพดี

กันแดด ดีที่สุด 2023

LazBeauty

รวมไอเทมท้าฝน! LazBeauty สำหรับตัวมัมสายบิวตี้

แน่นอนว่าตอนนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการแล้ว แต่ชาว LazBeauty ยังต้องเผชิญแดดร้อนอยู่ทุกวัน หลาย ๆ คนต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่แปรปรวน ทั้งความเปียกชื้นและความร้อน ทำเอาเหล่าสาว ๆ สายบิวตี้นั้นเป็นกังวลใจอย่างมาก เพราะผิวสวย ๆ ของเราก็จะต้องถูกทำร้ายไปด้วย ดังนั้น การเผชิญกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย เราจึงต้องใส่ใจเรื่องไอเทมการดูแลผิวเป็นพิเศษ 

สินค้าจาก LazBeauty เป็นแหล่งศูนย์รวมสินค้าแบรนด์ดังชั้นนำมากกว่า 40 แบรนด์ ให้สาว ๆ สายบิวตี้ได้เลือกซื้อสินค้าตามความต้องการ โดยสินค้าจากลาซบิวตี้ยังการันตีสินค้าของแท้ 100 % ด้วย เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ต้องการหาไอเทมคู่ใจไว้ใช้ในทุกฤดูกาล

จดลิสต์ของมันต้องมีจาก ลาซบิวตี้ ในหน้าฝน

· รองพื้นผิวเนียนสูตรกันน้ำ

การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์รองพื้นสูตรกันน้ำ นับว่าเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับช่วงหน้าฝน เพราะรองพื้นช่วยให้ความเรียบเนียน เพิ่มความสวยงามให้กับผิวหน้าของเรา โดยเฉพาะรองพื้นจาก Lazada Beauty สามารถให้ความติดทนตลอดวัน ต่อให้ลุยฝนก็ติดทนไม่มีหลุด

· มาสคาร่าปัดขนตา

ต่อให้เป็นหน้าฝนแต่ขนตาของสาว ๆ ก็ต้องเด้งฟูสู้ฝน เพราะขนตาเป็นส่วนที่ทำให้ลุคการแต่งหน้าของสาว ๆ เพอร์เฟคได้ แต่ว่าฝนอาจจะทำให้มาสคาร่าหลุดเยิ้มได้ ดังนั้นควรเลือกใช้มาสคาร่าสูตรกันน้ำ เพื่อให้ขนตาสวยเด้งไม่ต้องกลัวเปียกฝนตามสไตล์สาว ลาซบิวตี้

· ลิปสติกติดทน

ลิปสติกเป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อให้ริมฝีปากสวยงาม ติดทนทาน โดยสามารถใช้ทาได้แม้ริมฝีปากของเราต้องสัมผัสกับน้ำ เช่น โดนฝน ดื่มน้ำ หรือรับประทานอาหาร ลิปสติกกันน้ำนั้นช่วยให้ริมฝีปากของเราดูเรียบเนียนและสวยงามตลอดวัน โดยไม่ต้องกังวลว่าริมฝีปากจะซีดแต่อย่างใด

· เมคอัพเซ็ตติ้งสเปรย์

เมคอัพเซ็ตติ้งสเปรย์เป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในขั้นตอนสุดท้ายของการแต่งหน้า เพื่อช่วยให้เครื่องสำอางบนผิวหน้าของเราติดทนยาวนานมากขึ้น เหมาะกับการเป็นไอเทมเด็ดลาซบิวตี้ในหน้าฝนสุด ๆ โดยเซ็ตติ้งสเปรย์มีหน้าที่ในการปกป้องการไหลเยิ้มของเครื่องสำอาง โดยที่ไม่ทิ้งสารตกค้างไว้ที่ใบหน้าของเรา นอกจากนี้ยังช่วยทำให้ผิวของเราดูสดใส คอยกักเก็บความชุ่มชื้น และควบคุมความมัน

เซต 4 ไอเทม ลาซบิวตี้ สวยท้าฝนแบบตัวแม่

1. รองพื้น Estee Lauder Double Wear Stay In Place Makeup 

รองพื้นของ Estee Lauder เป็นรองพื้นกึ่งแมตต์ เหมาะกับทุกสภาพผิว สามารถช่วยควบคุมความมันบนใบหน้าได้ รองพื้นตัวนี้มีความบางเบาแต่ปกปิดได้ดี สามารถเกลี่ยง่าย ใช้แล้วสบายผิวไม่เหนียวหน้า ขึ้นแท่นลูกรักของ ลาซบิวตี้ เพราะกันเหงื่อกันน้ำแบบขั้นสุด ทาแล้วสวยฉ่ำผิวสุขภาพดี แต่การันตีว่าหน้าไม่เยิ้มแน่นอน

2. มาสคาร่า Maybelline Volume Express Hyper Curl mascara

คิดถึงมาสคาร่าขนตาเด้ง คุณภาพดี ต้องเมย์เบลลีน นิวยอร์กเท่านั้น! มาสคาร่าฝาชมพูในตำนาน ช่วยให้ขนตาเด้งสวย กันน้ำได้ดี ไม่เลอะไม่ไหล สวยท้าฝนทนทานทุกสภาพอากาศ แปรงปัดขนตาที่โค้งรับรูปตาของเราอย่างดี ทำให้บังคับทิศทางการปัดขนตาได้ ขนตาไม่จับเป็นก้อน เพิ่มความหนาให้ขนตาแบบตัวมัม แม้จะงอนนานกว่า 48 ชั่วโมง แต่ล้างออกง่ายสุด ๆ

3. ลิปสติก Chanel Rouge Allure Velvet Lipstick

ลิปสติกสุดฮิตของ Chanel ที่มีรีวิวในอินเทอร์เน็ตล้นหลาม แนะนำเลยว่าสาว ๆ ชาว ลาซบิวตี้ ต้องมีไว้ในครอบครอง เจ้าลิปสติกตัวนี้เหมาะกับทุกฤดูกาล ไม่ใช่เพียงแค่ในหน้าฝนเท่านั้น เพราะลิปสติกมีเนื้อสัมผัสที่นุ่มและบางเบา แต่สามารถติดทนยาวนาน ไม่ต้องเสียเวลาเติมปากบ่อย ๆ มีสีให้เลือกหลายสี สามารถเลือกซื้อได้ตามความชอบได้เลย

4. เมคอัพเซ็ตติ้งสเปรย์ Urban Decay All Nighter Long Lasting Makeup Setting Spray

เมคอัพเซ็ตติ้งสเปรย์ของ Urban Decay ช่วยทำให้เครื่องสำอางของเราติดทนยาวนานมากขึ้น ทำให้ผิวหน้าของเราสวยฉ่ำเด้งตลอดวัน โดยสามารถล็อกเครื่องสำอางบนใบหน้าของเราได้ถึง 16 ชั่วโมง พอลงสเปรย์แล้วจะทำให้เรารู้สึกสบายผิวหน้า ไม่เหนียวเหนอะหนะ

อย่างไรก็ตาม ฤดูฝนกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การเตรียมเลือกซื้อเครื่องสำอางที่กันน้ำและติดทนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เราควรซื้อสินค้าที่มีคุณภาพจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ ชาว LazBeauty ที่กำลังเผชิญกับหน้าฝนอยู่อย่างลืมดูแลสุขภาพและใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมตามฤดูกาล เพื่อช่วยเพิ่มความมั่นใจและตอบโจทย์ความต้องการของเรามากที่สุด

Lazbeauty

evening dress

ออกงานไหนก็สวยสะดุดตาด้วย 5 เทคนิคเลือก evening dress 

ชุดเดรสที่ใส่สำหรับออกงาน หรือ evening dress เป็นชุดที่มีลักษณะเป็นผ้าชิ้นเดียว โดยการออกแบบจะมีทั้งแบบที่เป็นเสื้อและกระโปรง และเสื้อพร้อมกางเกง ชุดเดรสเป็นชุดที่ได้รับความนิยมมาทุกยุคทุกสมัย มีพัฒนาการออกแบบที่สวยงาม เพื่อชูให้คุณผู้หญิงดูสวยโดดเด่น ซึ่งในปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่าชุดเดรสสามารถสวมใส่ออกไปเดินเล่นสบาย ๆ ได้ในตอนกลางวัน อีกทั้งยังสามารถสวมใส่ไปทำงานได้ด้วย ดังนั้นเมื่อชุดเดรสได้รับการพัฒนาให้สามารถสวมใส่ได้ทุกวาระและโอกาส เราจะมีเทคนิคการเลือกชุดสำหรับออกงานอย่างไรให้สะดุดตา เราไปชมเทคนิคกันเลย

5 เทคนิคการเลือก ชุดเดรส ที่จะช่วยให้คุณโดดเด่นและมั่นใจ

การเลือกชุดออกงานไม่ว่าจะเป็นงานกลางวันหรือกลางคืน นอกจากเราจะเลือกแบบที่เหมาะสมกับกาลเทศะที่มีความสวยงามแล้ว เราจะต้องเลือกชุดให้เข้ากับรูปร่างของเราด้วย เพราะเสื้อผ้าจะสวยหรือไม่สวยขึ้นอยู่กับสรีระของผู้สวมใส่ ว่าเลือกมาได้เหมาะสมกับรูปร่างหรือไม่ ซึ่งผู้หญิงแต่ละคนก็มีรูปร่างที่แตกต่างกัน คุณมีรูปร่างแบบไหน เราไปเลือกชุดของคุณพร้อมกัน

1. รูปร่างช่วงบนเล็กว่าช่วงล่าง

สาว ๆ กลุ่มนี้จะมีรูปร่างเหมือนลูกแพร์ โดยช่วงอก ไหล่ และต้นแขนจะมีสัดส่วนที่เล็กว่าช่วงสะโพกและต้นขา เรียกได้ว่าเป็นความเซ็กซี่ของสาว ๆ ที่มีรูปร่างสะโพกผายเช่นนี้ แต่สาว ๆ หลายคนก็ไม่มั่นใจที่จะใส่ชุดเดรสสำหรับออกงาน เพราะความใหญ่สะโพกและต้นขา เรื่องนี้แก้ไขได้ง่ายนิดเดียว เพียงคุณเลือกชุดเดรสที่โชว์สัดส่วนช่วงบน อาจจะเป็นเกาะอก หรือสายเดี่ยว เพื่อเปิดให้เห็นหัวไหล่ ลำคอ และท่อนแขน ส่วนช่วงสะโพกให้เป็นกระโปรงยาวอาจจะมีผ่าข้างเล็กน้อยเพื่อความเพิ่มความเซ็กซี่ก็ได้

2. รูปร่างทรงนาฬิกาทราย

ได้รับการยอมรับว่าเป็นรูปร่างที่มีความสมบูรณ์แบบ สาว ๆ กลุ่มนี้จะมีความกว้างของหัวไหล่และสะโพกที่เท่ากัน ส่วนช่วงเอวจะคอดเข้าไปด้านใน ทำให้เห็นช่องว่างระหว่างเอวและแขนอย่างชัดเจน เป็นรูปร่างในฝันที่สาว ๆ หลายคนพยายามปั้นหุ่นให้ได้แบบนี้ เมื่อมีรูปร่างที่สมส่วนขนาดนี้การเลือกชุดเดรสก็ไม่ใช่เรื่องยากเลย เพราะหยิบอะไรมาใส่ก็สวย เพิ่มเทคนิคนิดเดียว คือ พยายามใส่ชุดที่เข้ารูปพอดี ไม่หลวมเกินไป จะช่วยโชว์สัดส่วนได้อย่างสง่างาม

3. สาว ๆ รูปร่างผอมบาง

สาวผอมบางมักจะประสบปัญหากับการเลือกชุดออกงานบ่อย ๆ เพราะรูปร่างที่ผอมทำให้เสื้อผ้าที่สวมใส่ดูหลวมเกินไป แต่ถ้าหากเลือกเสื้อผ้าที่เข้ารูป ก็จะทำให้เห็นรูปร่างที่แท้จริง ซึ่งต่อไปนี้สาว ๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องการเลือกเดรสสวย ๆ ใส่ไปออกงานแล้ว เพราะเรามีเทคนิคมาฝากนั่นคือ พยายามเลือกชุดเดรสที่มีการแต่งระบายตรงช่วงเอว และลวดลายของผ้าควรเลือกลายใหญ่ ๆ หรือจะเลือกเป็นเดรสแบบตูตูที่มีกระโปรงระบายฟูฟ่อง ก็ช่วยพรางรูปร่างได้ดี แถมยังสวยสะดุดตา และดูมีสัดส่วนที่เซ็กซี่มากขึ้นด้วย

4. สาวพลัสไซส์

สาวรูปร่างอวบมักจะคิดว่าตัวเองเหมาะสมกับเดรสแบบคลุมทั้งตัวตั้งแต่คอจรดข้อเท้า เพื่อเป็นการพรางรูปร่าง ซึ่งความคิดนี้เป็นวิธีที่ผิด เพราะจะยิ่งทำให้สาว ๆ แลดูตัวใหญ่ขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า มาเปลี่ยนความคิดและทำความเข้าใจกันใหม่ ด้วยการเลือกชุดเดรสที่มีขนาดพอดีกับตัว ซึ่งไม่ได้หมายความว่ารัดรูป และไม่ได้หมายความว่าหลวม และไม่จำเป็นต้องคลุมไปถึงข้อเท้า ให้เลือกเดรสสีเข้มเพื่อเป็นการพรางรูปร่าง พร้อมเสริมส่วนเว้าส่วนโค้งด้วยการคาดเข็มขัดเก๋ ๆ หรือเชือกผูกเอวสักเส้น เพียงเท่านี้ก็สวยได้อย่างมั่นใจ

5. สาวอวบต้นขาใหญ่ กับสาวอวบต้นแขนใหญ่

มาถึงสาว ๆ กลุ่มที่มีปัญหาในการเลือกชุดเดรสเช่นกัน เริ่มกันที่กลุ่มที่มีรูปร่างอวบและมีสะโพกกับต้นขาที่ใหญ่ สาว ๆ กลุ่มนี้ให้เลือกชุดเดรสที่กระโปรงคลุมเลยหัวเข่าลงมา เพื่อเป็นการพรางช่วงสะโพกและต้นขา ส่วนช่วงหัวไหล่ให้เลือกเป็นชุดที่เปิดไหล่ หรือชุดที่มีการตกแต่งบริเวณช่วงไหล่ เพื่อเป็นการสร้างจุดดึงสายตาไปที่หัวไหล่ กลุ่มต่อมาคือสาวอวบที่มีต้นแขนใหญ่ ให้เลือกสวมใส่เป็นเดรสกระโปรงสั้นแขนยาว เพื่อเปลี่ยนจุดดึงสายตาไปที่ขาแทน ส่วนเนื้อผ้าควรเลือกผ้าลินินหรือผ้าชีฟองที่มีความลื่น จะช่วยให้ไม่แนบเนื้อ สามารถพรางรูปร่างได้ดี

เมื่อเลือกชุด evening dress กันได้แล้ว อย่าลืมดีเทลเก๋ ๆ อย่างเครื่องประดับต่าง ๆ รองเท้าส้นสูง และกระเป๋า เพื่อช่วยเติมแต่งให้คุณสวยสะดุดตาไม่ซ้ำใคร ที่สำคัญจัดแต่งทรงผมให้เข้ากับรูปร่าง และชุดที่เลือกด้วย จะยิ่งเพิ่มความกลมกล่อม ดูละมุนสายตา มองกี่ครั้งก็ไม่เบื่อเลยทีเดียว

evening dress

นัมจู numju

นัมจู numju วิตามินเกาหลีเข้มข้น ครีมบำรุงผิวตัวท็อปในยุคนี้

สำหรับในยุคนี้ที่มีผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเกิดขึ้นมากมาย จนเลือกใช้กันไม่ถูก จะไม่พูดถึง นัมจู numju คงเป็นไปไม่ได้ เพราะในรีวิวจากทุกแพลตฟอร์ม ยี่ห้อนี้ถือว่าขึ้นแท่นติดชาร์จ ที่ใคร ๆ ก็ต้องรู้จักกันอย่างแน่นอน หากคุณกำลังมองหาครีมบำรุงผิวสักตัว ขอบอกเลยว่าตัวนี้น่าลองสุด ๆ เราไปทำความรู้จักกับเจ้าครีมนัมจูให้มากขึ้นก่อนใช้กันดีกว่า

นัมจู numju ไม่ใช่แค่ครีมบำรุงผิวทั่วไป

นัมจูมีส่วนผสมจากวิตามินเกาหลี ที่มีความเข้มข้นมาก และรวบรวมสารสกัดจากธรรมชาติไว้มากมาย ที่พร้อมเติมประโยชน์ดี ๆ ให้กับผิวของคุณได้มากกว่าครีมบำรุงผิวทั่วไป…เราไปดูส่วนผสม และสรรพคุณกันเลย ที่น่าสนใจกันเลย

  • วิตามินบี 3 : เป็นส่วนผสมหลักที่สกินแคร์ต้องมี เพราะช่วยบำรุงและฟื้นฟูผิวเสียได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะริ้วรอย และรอยดำ รอยแดงต่าง ๆ รวมไปถึงช่วยให้ผิวกระจ่างใส ชุ่มชื้น และเรียบเนียนขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย
  • วิตามินอี : ช่วยบำรุงผิวที่แห้งกร้านให้กลับมานุ่มชุ่มชื้น ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย พร้อมเป็นเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง และป้องกันรังสี UV ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
  • สกัดจากดอกมะลิ : ช่วยเติมความชุ่มชื้น ให้ผิวเนียนนุ่ม ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย ทำให้ผิวเปล่งปลั่ง มีสีผิวที่เรียบเนียนสม่ำเสมอ
  • สารสกัดจากดอกเดซี่ : ต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่เป็นสาเหตุของริ้วรอยก่อนวัย และช่วยปรับสีผิวให้ขาวกระจ่างใสขึ้น
  • เชียบัตเตอร์ : เป็นส่วนผสมที่ยืนหนึ่ง เรื่องช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว และยังทำให้รอยแผลเป็นจางลงอีกด้วย
  • ว่านหางจระเข้ : เติมความชุ่มชื้นให้ผิว ลดเลือนรอยแดง รอยดำ และช่วยฟื้นบำรุงผิวที่ถูกทำร้ายจากแสงแดด
  • สกัดจากดอกชบา : ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้ว เพื่อทำให้เกิดเซลล์ผิวใหม่ได้เร็วขึ้น พร้อมบำรุงผิวชั้นนอกให้เนียน กระจ่างใส 
  • สารสกัดจากดอกมีโดว์สวีท : ช่วยฟื้นฟูผิวเสียสะสม โดยการสร้างน้ำมันภายในรูขุมขน ควบคุมให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม และช่วยลดการอักเสบ
  • วิตามินซีรูปแบบใหม่ Caprylyl2 Glyceryl Ascorbate : เป็นอนุพันธ์วิตามินซีที่หาได้ยากในครีมบำรุงผิวทั่วไป ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสี ทำให้ผิวกระจ่างใส และมีความยืดหยุ่นสูง
  • มีสารสกัดจากเพชรแท้ : มีสารสกัดจากเพชรแท้บริสุทธิ์ ที่มีคุณสมบัติช่วยปรับผิวให้สว่างกระจ่างใสขึ้นอีกระดับ กระตุ้นเซลล์ผิวที่อ่อนล้าให้เปล่งประกาย และช่วยปรับสมดุลผิว

ทำไมหลายคนถึงตกหลุมรัก นัมจู

อย่างที่เรารู้กันดีว่า numju เป็นครีมตัวดัง ที่มีการรีวิวทั้งแบบปากต่อปาก ไม่ว่าจากเพื่อน ๆ หรือคนรู้จัก ต่างก็รีวิวอย่างตรงไปตรงมา ซื้อมาใช้ตามแล้วไม่มีผิดหวัง รวมไปถึงรีวิวจากโซเชียลมีเดียอีกด้วย เพราะในยุคโซเชียลแบบนี้ คุณไม่ควรพลาดที่จะต้องดูรีวิวจากโซเชียลมีเดียทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น Influencer หรือ Beauty Blogger ต่างก็รีวิวไว้อย่างละเอียด ทั้งรูปภาพและข้อมูลที่เห็นได้ชัด เราไปดูกันเลยว่า รีวิวต่าง ๆ ว่ายังไงกันบ้าง ทำไมถึงเป็นเหตุผลที่ทำให้หลาย ๆ คน ตกหลุมรักเจ้าครีมนัมจูกันมากขนาดนี้

  • กลิ่นหอม ติดผิว เนื่องจากนัมจู มีส่วนผสมเป็นสารสกัดจากดอกไม้หลายชนิด ทำให้มีกลิ่นหอมออกหวาน ๆ จากดอกไม้ และให้กลิ่นหอมที่ติดทน ทำให้ผิวหอมตลอดทั้งวัน เหมือนได้ฉีดน้ำหอมไปในตัว
  • เป็นโลชั่นผิวขาว ที่ไม่ใช่โลชั่นทั่วไป นัมจู มีส่วนผสมเป็นวิตามินจากเกาหลี มีความเข้มข้นมาก ระดับหัวเชื้อ จึงช่วยบำรุงผิวให้ขาวกระจ่างใส สีผิวสม่ำเสมอ และเนียนนุ่มได้อย่างตรงจุด
  • ซึมเข้าผิวไว เนื้อโลชั่นซึมเข้าผิวไว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ทาแล้วทำให้รู้สึกสบายผิว ทำให้การบำรุงผิวของคุณไม่ยุ่งยาก ตัวเดียวจบ ทาเสร็จแล้วก็สามารถออกจากบ้านได้ทันที โดยไม่ต้องรอ หรือบำรุงตัวอื่นเพิ่ม
  • มีทั้งแบบกระปุก และแบบซองให้เลือก มี 2 ขนาดให้เลือก ทั้งแบบซอง ที่พกพาสะดวก หรือลองเปิดใจทดลองใช้ดูก่อน และแบบกระปุก เอาไปใช้แบบจุใจ เพื่อบำรุงผิวให้ขาวกระจ่างใส และเนียนนุ่ม เหมือนสาวเกาหลี
  • ให้มากกว่าผิวขาว ใช้นัมจู ทาที่ข้อศอก หัวเข่า และรักแร้ เพื่อความเรียบเนียนขึ้น และช่วยลดกลิ่นตัวที่จุดอับต่าง ๆ ได้ รวมไปถึงทาเพื่อแก้ปัญหาท้องลาย ก้นลาย หรือจุดด่างดำที่สะสมมานาน

เป็นยังไงกันบ้าง อ่านจบแล้ว อยากลองใช้ นัมจู numju กันเลยใช่ไหมล่ะ? ด้วยสารสกัดจากธรรมชาติหลากหลายชนิด และวิตามินจากเกาหลีที่เข้มข้นระดับหัวเชื้อ ที่ไม่เหมือนโลชั่นทั่วไป ไม่ได้มีดีแค่ช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสอย่างเห็นได้ชัด แต่ยังสามารถใช้พอกผิวบริเวณที่คุณไม่มั่นใจได้อีกด้วย เช่น ข้อศอก หัวเข่า หน้าท้อง ก้น และรักแร้ เพื่อแก้ปัญหาอย่างตรงจุด และมีประสิทธิภาพ

นัมจู numju

vaseline 3

vaseline 3 โลชั่นเซรั่มเข้มข้นเพื่อผิวกระจ่างใสที่พิสูจน์ได้ใน 7 วัน!

หากพูดถึงโลชั่นเซรั่มที่กำลังมาแรงในช่วงที่อากาศร้อนแบบนี้ vaseline 3 (Vaseline Pro Derma Niacinamide Brightening Body Lotion) หรือวาสลีนขวดสีชมพูก็เป็นอีกหนึ่งโลชั่นมาแรงที่จะมาช่วยกอบกู้ผิวของทุกคนให้กระจ่างใสขึ้นได้ เป็นโลชั่นเซรั่มที่เหมาะสำหรับผู้ที่ผิวหมองคล้ำสะสมและสีผิวไม่สม่ำเสมอ เพื่อช่วยฟื้นบำรุงผิวให้มีสุขภาพดีและช่วยให้ผิวขาวกระจ่างใสเปล่งประกายขึ้น สำหรับใครที่มีปัญหาผิวเหล่านี้อยู่วันนี้เราจะชวนไปพิสูจน์วาสลีน สูตร 3 กันว่าช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้นจริงไหมและดีต่อผิวอย่างไร?

จุดเด่นของโลชั่นเซรั่ม วาสลีน สูตร 3 ขาว ใส ไม่หมองคล้ำ

  • Niacinamide บริสุทธิ์ 99% วาสลีนสูตร 3 เป็นโลชั่นเซรั่มเข้มข้นที่มี Niacinamide บริสุทธิ์ 99% ที่ช่วยฟื้นบำรุงผิวให้กระจ่างใสและชุ่มชื้น โดยมี Ampoule ที่จะทำหน้าที่ตรงเข้าสู่เม็ดสีเมลาโทนินเพื่อปิดกั้นไม่ให้เข้าสู่ผิวหนังเพื่อสกัดกั้นต้นเหตุของผิวหมองคล้ำและสีผิวไม่สม่ำเสมอ 
  • Hexylresorcinol ช่วยปรับสมดุลในการผลัดเซลล์ผิวและช่วยจัดการต้นเหตุของผิวหมองคล้ำ จุดด่างดำ ด้วยการยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานิน ช่วยให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น
  • Resveratrol ทำหน้าที่ช่วยเสริมเกราะป้องกันผิว ช่วยให้ผิวแข็งแรง
  • เนื้อเซรั่มเข้มข้น ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้เร็ว ไม่ทำให้เหนียวเหนอะหนะ ไม่เลอะเสื้อผ้า ช่วยให้รู้สึกสบายผิว ไม่หนักผิว 
  • เห็นผลลัพธ์ได้ใน 7 วัน วาสลีน สูตร 3 เป็นโลชั่นเซรั่มที่ทางวาสลีนมีการทดสอบแล้วว่าสามารถเห็นผลลัพธ์และการเปลี่ยนแปลงได้จริงภายใน 7 วัน โดยผลลัพธ์ที่ได้จะขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน

vaseline 3 กับผลลัพธ์ในการทดสอบ เห็นผลจริงไหม?

วาสลีนสูตรนี้เป็นสูตรที่มีการทดสอบทางคลินิกโดยยูนิลิเวอร์ ไชน่า จากผู้ใช้จริง 33 คนที่มีการใช้งานเป็นประจำ ผลลัพธ์พบว่าผู้ใช้งาน 100% รู้สึกว่าผิวดูกระจ่างใสมากขึ้น สีผิวดูสม่ำเสมอ ผิวนุ่มชุ่มชื้นมากขึ้น และ 94% พบว่าผิวเรียบเนียนมากขึ้น เมื่อลองเปรียบเทียบผลลัพธ์แล้วพบว่าสีผิวดูกระจ่างใสขึ้นได้ใน 7 วันอย่างเห็นได้ชัด แต่ทั้งนี้ผลลัพธ์ที่ได้จะขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล เนื่องจากแต่ละคนมีสภาพผิวและอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมือนกัน 

าสลีน สูตร 3 กับเคล็ดลับการใช้ให้เห็นผลจริง

  • ใช้เป็นประจำทุกวัน สำหรับใครที่อยากพิสูจน์ผลลัพธ์ vaseline 3 ใน 7 วัน แนะนำว่าให้ใช้งานอย่างสม่ำเสมอหรือใช้เป็นประจำทุกวันเพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น ลูบไล้ให้ทั่วผิวกายวันละ 1 – 2 ครั้ง
  • ทาโลชั่นบำรุงผิวหลังอาบน้ำ โลชั่นจะซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดีในขณะที่ผิวหมาด ช่วยให้ผิวกักเก็บความชุ่มชื้นได้ดีและช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื้นขึ้น หลังอาบน้ำเมื่อผิวเริ่มแห้งหมาด ๆ ก็สามารถทาโลชั่นให้ทั่วเรือนร่างได้เลย
  • สามารถใช้ร่วมกับวาสลีนสูตรอื่นได้ สำหรับใครที่มีปัญหาผิวอื่น ๆ ร่วมด้วยก็สามารถใช้วาสลีนสูตรอื่น ๆ ได้ เพราะมีออกมาให้เลือกใช้กันถึง 4 สูตร สำหรับใครที่มีปัญหาผิวแห้ง ขาดน้ำ ผิวโทรม สามารถใช้วาสลีนสูตร 4 หรือ Vaseline Pro Derma Moisturizing with Hyaluronic Acid Body Lotion ขวดสีฟ้าร่วมได้ แต่หากใครที่มีปัญหาผิวหยาบกร้าน ไม่เรียบเนียน เหมาะสำหรับสูตร 5 Vaseline Pro Derma Smoothing with AHA Body Lotion โลชั่นขวดสีเขียว ส่วนใครที่มีปัญหาเรื่องความหย่อนคล้อย ผิวไม่เด้งกระชับ เหมาะสำหรับวาสลีนขวดสีม่วงสูตร 6 Vaseline Pro Derma Firming with Hexapeptide Body Lotion
  • ใช้ร่วมกับโลชั่นป้องกันแสงแดด หลังจากใช้โลชั่นสูตร 3 หรือสูตรอื่น ๆ แล้ว ควรทาผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดร่วมด้วยทุกครั้ง เพื่อเสริมเกราะป้องกันให้ผิวอีกขั้นจากการถูกทำร้ายจากแสงแดด เพราะแสงแดดเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวหมองคล้ำและสีผิวไม่สม่ำเสมอ 
  • หลังใช้แล้วควรรอให้โลชั่นซึมเข้าสู่ผิวก่อนใช้ผลิตภัณฑ์อื่น สำหรับใครที่ใช้โลชั่นทาผิวหลายตัว แนะนำว่าหลังจากทาสูตร 3 แล้วควรรอ 2 – 5 นาทีให้เนื้อโลชั่นซึมเข้าผิวก่อนค่อยใช้ตัวต่อไป เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

สำหรับใครที่มีปัญหาเรื่องผิวหมองคล้ำหรือสีผิวไม่สม่ำเสมอ วาสลีนสูตร 3 ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยดี ๆ ที่หลายคนพิสูจน์แล้วว่าสามารถเห็นผลลัพธ์ได้จริงใน 7 วัน หากใครสนใจสามารถพิสูจน์ด้วยตัวเองกันได้แล้ว!

vaseline 3